ทรู สร้างมิติใหม่ดูแลลูกค้า ส่งมอบเครื่อง iPhone 17 Pro และ iPhone Air เหนือกว่าทุกสัมผัส

ทรู สร้างมิติใหม่ดูแลลูกค้า ส่งมอบเครื่อง iPhone 17 Pro และ iPhone Air เหนือกว่าทุกสัมผัส ล้ำกว่าทุกประสบการณ์ พร้อม “โปรข้ามเวลา” 0 บาทที่เป็นจริง และครั้งแรกในไทยกับ Immersive Experience ข้ามมิติสู่โลกอนาคต ในงาน “Stay True, Journey to the Future with the Latest Generation of iPhone”
กรุงเทพฯ 19 กันยายน 2568 – ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำผู้นำเทเลคอมเทคคอมปานีไทย เดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้าเหนือระดับ ส่งมอบ iPhone 17 Pro & iPhone Air แก่ลูกค้ากลุ่มแรกของทรู-ดีแทค ภายในงาน “Stay True, Journey to the Future with the Latest Generation of iPhone” เหนือกว่าทุกสัมผัส ล้ำกว่าทุกประสบการณ์กับไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยสัญญาณแห่งความสุขบนเครือข่ายทรู 5G ที่ดีที่สุด ครอบคลุมที่สุด ผสานกับระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจรที่พร้อมเชื่อมทุกมิติบริการและไลฟ์สไตล์อย่างไร้รอยต่อ พร้อมชูไฮไลท์ที่เหนือกว่ากับนวัตกรรม “โปรข้ามเวลา” ที่มอบโอกาสให้ลูกค้าซื้อเครื่อง iPhone 17 กับทรูดีแทค ได้อัปเกรด iPhone รุ่นใหม่ 0 บาทในปีต่อไป เติมความสุขให้ลูกค้า เป็นตัวจริงด้านดีลที่คุ้มค่า โปร่งใส และแตกต่างอย่างแท้จริง พร้อมการันตีลูกค้าทรู ดีแทค ซื้อ iPhone 17 ที่ทรู ราคาดีที่สุด สร้างปรากฏการณ์ยอดจองเกินความคาดหมาย
ภายในงานที่จัดขึ้น ณ ทรูแบรนดิ้งช็อป สยาม ซอย2 ลูกค้าทรู-ดีแทค เจ้าของเครื่องกลุ่มแรกจะได้สัมผัสปรากฎการณ์ Immersive Experience ครั้งแรกในไทยที่พาข้ามมิติก้าวสู่โลกอนาคต ตั้งแต่การข้ามเวลาผ่าน Laser wall สู่ประตูแห่งอนาคตเพื่อพบกับ iPhone 17 Pro และ iPhone Air ครบทั้ง 4 รุ่น พร้อมสัมผัส Experience Zone “Snap moment, Stay TRUE” “โพสไหนก็ไม่ธรรมดา” และ “Stay True… Stay style” ที่ถูกออกแบบให้สะท้อนความเป็น Unexpected Trend ถ่ายทอดความบันเทิงกับคอนเทนท์ที่หลากหลายในสเกลยักษ์ มอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ตื่นตาตื่นใจกับ Immersive Room: Into the Future ประตูมิติที่พาผู้เข้าร่วมสัมผัส “ดีลโปรข้ามเวลา” ผ่าน Immersive Experience เต็มรูปแบบ ปิดท้ายด้วย Photo Spot สุดล้ำ ที่มาพร้อมแคปชั่น “Got the Future… iPhone 17” ให้ผู้ร่วมงานแชร์ความประทับใจบนโซเชียลหรือเก็บเป็นที่ระลึกได้ทันที โดยในงานยังได้รับความสนใจจากบรรดา เซเลบริตี้ แฟชั่นไอคอน อินฟลูเอ็นเซอร์ ตัวจริงเสียงจริงแห่งกระแส แวะเวียนมารับเครื่อง และร่วมกิจกรรมไม่ขาดสาย อาทิ โอปอล สุชาตา Miss World 2025 คนแรกของไทย พี่เหว่ง เทพลีลา ยูทูปเบอร์และคอนเทนครีเอเตอร์ชื่อดัง จั๋ง วิกร, กฤติน กฤติน, ปาล์ม พีรวิชญ์ และน้องเล็ก ปลั๊กกี้ ธรากร วง PERSES (เพอร์เซส) บอยกรุ๊ปหน้าใหม่วงการ T-POP และอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ด ที่พลาดไม่ได้ กับจิมมี่ จิตรพล และ ซี ทวีนันท์ ที่จะมาร่วมสร้างปรากฏการณ์การรับเครื่อง iPhone 17 จากทรู ดีแทค ในช่วงเย็น
คุณโอลิเวอร์ กิตติพงษ์ วีระเตชะ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ ทรูเชื่อว่า ‘ความสุข’ ของคนไทยสามารถยกระดับไปอีกขั้นได้ เมื่อเรากล้าที่จะคิดและปรับเปลี่ยนมุมใหม่ การส่งมอบ iPhone 17 Pro และ iPhone Air ครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเปิดตัวเครื่องรุ่นล่าสุด แต่เป็นความตั้งใจของทรูที่จะส่งมอบความสุข ที่เหนือกว่าทุกสัมผัส ล้ำกว่าทุกประสบการณ์ ทั้งผ่านเครือข่ายทรู-ดีแทค5G สัญญาณความสุขที่ครอบคลุมที่สุด และระบบนิเวศดิจิทัลที่ครบ

วงจร พร้อมความเหนือกว่า ยั่งยืนกว่ากับ ‘โปรข้ามเวลา’ ซื้อ iPhone 17 เครื่องใหม่ปีนี้ อัพเกรดรุ่นใหม่ 0 บาท ปีหน้า ซึ่งเกิดขึ้นจริงแล้วในปีนี้ โดยไม่ได้เป็นเพียงข้อเสนอสุดคุ้ม แต่ยังเป็นนิยามใหม่ของการเป็นเจ้าของ iPhone ประเทศไทย ทรูไม่ได้นำแค่เทรนด์ แต่เป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนตลาดและยกระดับความสุขของคนไทยสู่มาตรฐานสากลอย่างแท้จริง
คุณอรรคพงศ์ ลินพิศาล หัวหน้าสายงานธุรกิจค้าปลีก ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่น ใส่ใจทุกความต้องการของลูกค้า มุ่งส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเทียบชั้นมาตรฐานโลกให้กับลูกค้าชาวไทย และวันนี้เราภูมิใจที่จะได้มอบสุดยอดประสบการณ์ iPhone 17 Pro และ iPhone Air บนเครือข่าย 5G ที่ดีที่สุดจากทรูและดีแทค นอกเหนือจากโปรข้ามเวลา ซึ่งจัดเป็นดีลแห่งอนาคตที่ดีที่สุด เรายังการันตีว่า ลูกค้าทรูดีแทค ที่ซื้อ iPhoneกับเรา จะได้ราคาที่ดีที่สุด ด้วยส่วนลดสูงสุด 19,700 บาท โดยนำเอาอายุการใช้งานมาเป็นส่วนลดเพิ่ม การ trade in นำเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ การใช้ True Point หรือ Dtac coin แลกส่วนลดเพิ่ม บริการ Financing ผ่อนสูงสุดนาน 36 เดือน หรือผ่อนสบายๆ 48 เดือน บริการTrue Mobile Care ที่พร้อมดูแลiPhone ของคุณตั้งแต่วันแรก รวมถึงส่วนลดอุปกรณ์เสริม รับฟรี Apple service นาน 3 เดือน และสิทธิประโยชน์อีกมากมาย เรียกว่า เป็นแพคเกจที่คุ้มค่าที่สุดที่พร้อมจะดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดไป”
สำหรับ “โปรข้ามเวลา” ที่ทรูสร้างสรรค์ขึ้นเป็นรายแรก และรายเดียวในไทย นับเป็นแพ็กเกจที่คุ้มค่าที่สุดและได้เปิดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยมอบข้อเสนอให้ลูกค้าทรู – ดีแทคที่จองและซื้อ iPhone 17 Pro และ iPhone Air วันนี้ พร้อมรับสิทธิ์อัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ในปีหน้าในราคาเริ่มต้นเพียง 0 บาท ซึ่งในปีนี้ก็ได้เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าลูกค้าที่เลือกใช้โปรข้ามเวลากับทรู ดีแทคในปีที่ผ่านมาได้รับสิทธิประโยชน์รับจริง แลกได้จริง สะดวกสบายและความคุ้มค่า ด้วยการอัปเกรดเครื่องใหม่ iPhone 17 ซีรีส์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 0 บาท ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดนี้ตอกย้ำพันธกิจของทรู–ดีแทค ในการส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคนทั่วประเทศ”
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและการใช้งาน iPhone 17 Pro และ iPhone Airที่ https://www.true.th/promotion/devices/iphone-17-pro
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.true.th
ดูรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Apple ที่ www.apple.com/th.

21 กันยายนนี้ “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี”

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.)​ หรือ NARIT กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผย 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร ส่งผลให้ดาวเสาร์ปรากฏสว่างมาก มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสังเกตการณ์ได้ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า สดร. เตรียมจัดส่องดาวเสาร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ 5 จุดสังเกตการณ์หลัก ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร เชียงใหม่ และหอดูดาวภูมิภาค นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมชวนติดตามชมการถ่ายทอดสดปรากฏการณ์ผ่านทาง เฟซบุ๊ก และยูทูบของ NARIT

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า วันที่ 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ (Saturn Opposition) หมายถึง ดวงอาทิตย์ โลก และดาวเสาร์ เรียงกันในแนวเส้นตรง โดยโลกอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และดาวเสาร์ ส่งผลให้ดาวเสาร์มีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร และในวันดังกล่าวจะเริ่มสังเกตดาวเสาร์ได้ทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปรากฏสว่างเด่นชัดตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า และหลังจากนี้ ดาวเสาร์จะยังคงปรากฏบนท้องฟ้าไปจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2569

สำหรับคืนวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568 สดร. เตรียมจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี” ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. ณ จุดสังเกตการณ์หลัก 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา เข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือชม LIVE ปรากฏการณ์ได้ทางเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ  https://www.facebook.com/NARITpage หรือทางยูทูบ NARIT Thailand https://www.youtube.com/@NARIT_Thailand

นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการชมดาวเสาร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ เนื่องจากดาวเสาร์อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ ทำให้ได้รับแสงอาทิตย์เต็มที่ สามารถมองเห็นได้ง่ายและมีรายละเอียดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเห็นดวงจันทร์บริวารที่สว่างที่สุดอย่าง ไททัน (Titan) ซึ่งเป็นดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์และมีชั้นบรรยากาศหนาแน่น และหากสังเกตผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดกลางตั้งแต่ 8 นิ้ว ขึ้นไปจะสามารถเห็นดวงจันทร์อื่น ๆ เช่น ดวงจันทร์รีอา (Rhea) ทีทิส (Tethys) ไดโอนี (Dione) ไอแอพิตัส (Iapetus) ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่วงแหวนดาวเสาร์มีมุมเอียงน้อยที่สุด ผู้สังเกตบนโลกจึงมองเห็นดาวเสาร์เสมือน “ไร้วงแหวน” เนื่องจากมุมเอียงของวงแหวนดาวเสาร์จะเปลี่ยนแปลงไปตามการโคจรของดาวเสาร์รอบดวงอาทิตย์ หนึ่งรอบใช้เวลาประมาณ 29.4 ปี ส่งผลให้ดาวเสาร์จะปรากฏเสมือนไร้วงแหวน เมื่อมองจากโลกในทุก ๆ 15 ปี ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงมุมเอียงและโครงสร้างของวงแหวนดาวเสาร์ในระนาบต่าง ๆ และด้วยระนาบการเอียงที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี ทำให้วงแหวนดาวเสาร์ปรากฏแตกต่างไปตามมุมมองที่มองจากโลก จึงเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของการสังเกตการณ์ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่น่าติดตาม อย่างไรก็ตาม ในคืน 21 กันยายนนี้ ดาวเสาร์จะไม่ได้ปรากฏเสมือนไร้วงแหวนแล้ว แต่ระนาบวงแหวนยังคงมีมุมเอียงที่น้อย จึงจะเห็นดาวเสาร์พร้อมกับวงแหวนบาง ๆ

สำนักงาน กกพ. ชูแนวคิดการขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน ในเวที Gastech 2025

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ. ได้นำเสนอแนวคิด “การขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน” (Powering a sustainable energy future) ภายใต้บทบาทเชิงรุกของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในการ กำกับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติให้มีความเป็นสากล สร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่ไปกับ การแข่งขันที่โปร่งใส พร้อมทั้งสร้างสมดุลและความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยแนวคิดดังกล่าว ถูกนำเสนออย่างเป็นทางการในเวที Gastech 2025 ซึ่งเป็นการประชุมด้านก๊าซธรรมชาติที่สำคัญระดับโลก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 12 กันยายน 2568 ณ กรุงมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับสำนักงาน กกพ. ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวนโยบายของประเทศต่างๆ ในกิจการพลังงานโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และ แนวทางการกำกับดูแลกิจการพลังงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กร กำกับดูแลพลังงานจากทั่วโลก ตลอดจนเป็นเวทีในการเผยแพร่ความก้าวหน้าของประเทศไทยในการเปลี่ยน ผ่านสู่พลังงานสะอาดและนวัตกรรมด้านพลังงานที่ยั่งยืน

“สำนักงาน กกพ. หวังว่าในการเข้าร่วมงาน Gastech จะเป็นโอกาสที่ดีในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ทิศทางและความสำเร็จในการกำกับกิจการพลังงานของไทยในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ไม่ว่าจะ เป็นความพร้อมในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าสีเขียว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติให้มี ความมั่นคง ทันสมัย และรองรับเทคโนโลยีใหม่ ควบคู่ไปกับการจัดทำโครงการนำร่องที่เปิดโอกาสให้ ผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดขายตรงให้กับผู้ใช้รายใหญ่ผ่านโครงการ Direct PPA Pilot Project หรือสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้าโดยมีการส่งมอบผ่านระบบข่ายไฟฟ้า (Third Party Access: TPA) ซึ่งถือเป็นการสร้างความโปร่งใสและเปิดเสรีในการแข่งขันในตลาดพลังงาน

การเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกสู่ประชาคมโลกว่าไทยมีความพร้อมในการ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ เช่น ศูนย์ข้อมูลหรือ Data Center ที่ใช้พลังงานสูง และการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการพลังงานอย่างมี ประสิทธิภาพ ทั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความร่วมมือและสร้างเครือข่ายพันธมิตร (Partnership) ทางธุรกิจด้านพลังงานกับองค์กรชั้นนำทั่วโลก เพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศ ซึ่งจะช่วยขยายศักยภาพด้านพลังงานและเศรษฐกิจของไทยในระดับ ภูมิภาคและโลกอย่างมีนัยสำคัญ” ดร.พูลพัฒน์ กล่าว

สำหรับเวที Gastech 2025 ซึ่งเป็นเวทีด้านพลังงานระดับสากล ที่มีการนำเสนอนวัตกรรมทางด้านพลังงาน เวทีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลากหลายแง่มุมด้านพลังงานระหว่างประเทศ โดยได้รับความสนใจจากผู้บริหาร ระดับสูงด้านพลังงานเอกชน ผู้แทนของหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานทั่วโลกเข้าร่วมงาน รวมทั้งมีนิทรรศการด้านพลังงาน เพื่อเสนอองค์ความรู้ ผลงาน แนวคิด ด้านพลังงานสมัยใหม่จากนานาประเทศ ที่เข้าร่วมงาน

ซีพี แอ็กซ์ตร้า เดินหน้ากลยุทธ์สร้าง “พื้นที่ความสุขทุกชุมชน” เสริมสุขภาพและรายได้อย่างยั่งยืน

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจ ‘แม็คโคร-โลตัส’ เดินหน้าสนับสนุนชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน เสริมสุขภาพ สร้างรายได้ เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ผ่านโมเดล Happy Mall ที่ยกระดับการเป็นศูนย์การค้า ด้วย ‘พื้นที่ความสุขของชุมชน (Happy Community)’ รวมศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงผู้คนและชุมชน ด้วยกิจกรรมเติมเต็มคุณภาพชีวิตรอบด้าน ล่าสุด โลตัส ประกาศความสำเร็จตามคำเรียกร้อง ขยายกิจกรรม “แอโรบิกเพื่อชุมชน” ครบ 100สาขาทั่วประเทศ หลังเปิดตัวครั้งแรกในปี 2566และเพิ่มพื้นที่ตลาดนัดชุมชน เปิดโอกาสให้เกษตรกรในท้องถิ่น ผู้ประกอบการรายย่อย และชุมชน นำสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาจำหน่าย สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความสุขให้กับผู้คนได้เป็นอย่างดี

การมีส่วนร่วมกับชุมชน นับเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักในการดำเนินธุรกิจของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่มุ่งสร้างการเติบโต และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นไปด้วยกัน ซึ่งการสร้างศูนย์กลางการใช้ชีวิตของชุมชนเพื่อเชื่อมโยงผู้คนและชุมชนเข้าด้วยกันภายในพื้นที่โลตัสผ่านโมเดล ‘พื้นที่ความสุขของชุมชน (Happy Community)’ ในครั้งนี้ ได้ผนวกรวมกิจกรรมที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน โดย ‘ตลาดนัดชุมชน’ เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้กับผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้า และเกษตรกรในท้องถิ่นมาขายสินค้า ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างงาน สร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกรแล้ว ยังได้มอบทางเลือกให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าคุณภาพในราคาย่อมเยา ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ทุกการใช้จ่ายต้องคิดอย่างรอบคอบ กิจกรรมนี้จึงเป็นอีกแรงสนับสนุนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจฐานราก สะท้อนความมุ่งมั่นในการเคียงข้างสังคมไทยอย่างแท้จริง

ในส่วนของกิจกรรมแอโรบิกที่จัดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่ศูนย์การค้าโลตัสนั้น ได้เปิดโอกาสให้คนทุกวัย ทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ ได้ออกกำลังกายร่วมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้การดูแลของครูแอโรบิกมืออาชีพ บรรยากาศสนุกสนานและเป็นกันเอง ทำให้กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมของทั้งลูกค้าและคนในชุมชน โดยล่าสุดได้ขยายพื้นที่กิจกรรมแอโรบิกครบ 100 สาขาทั่วประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว

ซีพี แอ็กซ์ตร้า เชื่อมั่นว่าศูนย์การค้าโลตัสเป็นมากกว่าสถานที่จับจ่าย แต่ศูนย์การค้าโลตัสเป็น Happy Mall ที่ยกระดับเป็นพื้นที่แห่งความสุข สุขภาพ และการเชื่อมโยงของผู้คน ที่กลายเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ครบครันทั้งกิน ช้อป ใช้ชีวิต พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้เติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน

SUN ตอกย้ำผู้นำเกษตรและอาหารครบวงจร จัดพิธีบวงสรวงพระพิรุณและเสริมพลังเครือข่ายเกษตรกร ประจำปี 2568

เชียงใหม่ – วันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ภายใต้แบรนด์ “KC” จัดพิธีบวงสรวงพระพิรุณ เทพแห่งสายฝน ผู้เป็นที่เคารพนับถือของชาวเกษตรกรไทย ณ ไร่ตะวันหวาน (Sun Valley) อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อการดำเนินธุรกิจ การเพาะปลูก และชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรอย่างยั่งยืน

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “การบวงสรวงพระพิรุณเป็นประเพณีที่ซันสวีทยึดถือมาโดยตลอด เพราะเราตระหนักดีว่าน้ำและธรรมชาติคือรากฐานสำคัญของการเกษตร พิธีนี้ไม่เพียงเสริมสิริมงคลแก่บริษัทและพนักงาน แต่ยังเป็นการส่งกำลังใจและสร้างความมั่นคงให้กับเครือข่ายเกษตรกรของเรา” บริษัทจัดขึ้น เป็นประจำทุกปีในวันที่ 9 เดือน 9 อันเป็นวันมงคล โดยมีคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน และเกษตรกรในเครือข่ายเข้าร่วมงาน เพื่อแสดงถึงการขอบคุณและสำนึกในพระคุณของธรรมชาติที่เกื้อหนุนการเพาะปลูก

ภายหลังพิธีบวงสรวง ได้มีกิจกรรมพบปะเกษตรกรและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม SUN ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเกษตรไทยสู่สากล ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างคุณค่าแก่ผู้บริโภค เกษตรกร ชุมชน และสังคม” ต่อไป

สืบชะตาหลวงแบบล้านนา ทำบุญอายุวัฒนมงคล 80 ปี พระพรหมเสนาบดี ฯ ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพ

พิธีเจริญพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงแบบล้านนา ทำบุญอายุวัฒนมงคล ครบ 80 ปี พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ.๓๗) ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหาร ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 โดย 4 คณะสงฆ์ มีเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เป็นประธานในพิธีสงฆ์ และพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาส วัดสระเกศ พระพรหมมงคลวัชโร   ดม  วัดจองคำ/ลำปาง พระพรหมวชิรโพธิวงศ์ วัดไทยพุทธคยา/    อินเดีย คณะศรัทธา พร้อมกันบริเวณมณฑลพิธี เจริญพระพุทธมนต์สืบชะตาหลวงแบบล้านนา และมีนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคุณกชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ และในฐานะที่ปรึษาประธานกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และในฐานะประธานชมรม Change Together byมาดามหยก และ INDY TEAM ร่วมเป็นประธานในพิธี ถวายเพลพระ 150 รูปในครั้งนี้

บ.ชาญไพบูลย์ ฯ จัดงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ 9.9 Rasland Paini Beyond Style, Beyond Performance แบรนด์สุขภัณฑ์ชั้นนำจากอิตาลี

เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ของ Painiแบรนด์ ก๊อกน้ำที่กล้ารับประกันตลอดอายุการใช้งาน ที่อยู่มาแล้วกว่า 70 ปี วันนี้ Paini กลับมาอีกครั้งด้วยสินค้าใหม่ยกเซ็ต ทั้งก๊อกน้ำ ก๊อกยืนอาบ ก๊อกลงอ่าง ก๊อกซิงค์ล้างจาน ฝักบัว เรนชาวเวอร์ สายฉีดชำระ ท่อน้ำทิ้ง สะดืออ่าง สต็อปวาล์ว จัดมาให้คุณได้สัมผัสสินค้าเป็นครั้งแรก! และที่แรกในประเทศไทย!

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ชาญไพบูลย์ เทรดดิ้ง (1972) จำกัด ก่อตั้งในปี 2515 โดย คุณชาญชัย ชาญชนาไพบูลย์ ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากเห็นคนไทยได้ใช้สุขภัณฑ์ระดับมาตรฐานสากล แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยการทำธุรกิจภายในครอบครัว   เป็นตัวแทนนำเข้าอย่างเป็นทางการของ Paini, Aquaflex, Schell, Fornara, แฮคก้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งห้องน้ำแบรนด์ Rasland และ Ben ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย

 ปัจจุบัน ชาญไพบูลย์ เป็นผู้นำเข้าสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งห้องน้ำมาตรฐานสากล จำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และกำลังเติบโตในหลายประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

คอลเล็กชันใหม่ของ Paini ทั้ง 6 คอลเลกชัน ซึ่งแต่ละคอลเลกชันก็ มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

เริ่มจากคอลเลกชันแรก Moderno (โม-เดิร์น-โน่)

คอลเลกชันที่โดดเด่นที่สุดของ Paini ซีซันนี้ ถ้าเปรียบเป็นมือถือ ก็เหมือนมือถือรุ่นแฟล็กชิปที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้งานที่เต็มเปี่ยมและดีไซน์ที่โดดเด่นสะดุดตา เรียกว่าอยู่ในห้องน้ำบ้านใครหรือว่าอยู่ในโครงการไหน ใครเห็นใครก็ต้องมอง ดีไซน์ตัวก๊อกมีความโค้งมน ให้ความรู้สึกโมเดิร์น ใครเห็นก็นึกถึงความเป็นอิตาลีอย่างแน่นนอน

คอลเลกชันที่ 2 Elegante (เอ-เล-แกน-เต้)                                                                                                        

ถ้าถามว่าคอล เลกชันไหนที่ดูหรูหราที่สุดของ Paini ซีซันนี้ เราขอยกให้รุ่น Elegante เพราะความโค้งมนของปากก๊อก และมือจับที่จับถนัดมือพอดี ทำให้ก๊อกทั้ง 2 ตัวไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ดูหรูหรามีระดับมากเป็นพิเศษ ถ้าลองหลับตา ก๊อก 2 ตัวนี้เหมาะจะอยู่ในโรงแรมหรู ซึ่งลูกค้าท่านไหนซื้อก๊อกรุ่นนี้ไปก็สามารถเนรมิตห้องน้ำที่บ้านให้กลายเป็นห้องน้ำสุดหรูได้ในพริบตา

คอลเลกชันที่ 3 Funzione (ฟัน-ซิ-โอ-เน่)

เมื่อพูดถึงก๊อกแล้ว จะพลาดก๊อกซิงค์ล้างจานไปไม่ได้ Paini ขอเชิญสัมผัส ประสบการณ์กับก๊อกซิงค์ล้างจานระดับไฮเอนด์ที่ไม่เหมือนใครด้วยรุ่นFuzione คอลเลกชันนี้มาพร้อมกับสินค้า 2 รุ่น ด้วยกัน คือก๊อกซิงค์สีโครเมียม และก๊อกซิงค์สีดำ ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านที่มีครัวฝรั่งหรือครัวเบาภายในบ้าน ใช้ล้างแก้ว ล้างจาน ที่ไม่ได้หนักหน่วงมาก แต่ทำความสะอาด ได้ถึงจุดดีไซน์ตัวก๊อกมาพร้อมความโค้งมนเข้ากับคอลเลกชันอื่นๆ งวงก๊อกตั้งฉาก ทำ ให้ครัวดูทันสมัยมากขึ้นไปอีกสเตป

คอลเลกชันที่ 4 Fredo (เฟร-โด้)

คอลเลกชันนี้มีทั้งก๊อก ขนาดใหญ่ ก๊อกขนาดเล็ก ก๊อกยืนอาบ ก๊อกลงอ่าง เรียกว่า ใครจะตกแต่งห้องน้ำ หรือรีโนเวตห้องน้ำ ใหม่ เปลี่ยนห้องน้ำด้วยคอลเลกชัน Fredo ทั้งเซ็ตก็เหมือนได้ห้องน้ำใหม่ คอลเลกชันนี้เราเน้นที่ความมินิมอล ขนาดก๊อกแต่ละตัวจึงถูก ออกแบบมาอย่างพอดี ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป เหมาะกับห้องน้ำ คอนโดมิเนียมหรือบ้านที่ต้องการความคุมโทน ญี่ปุ่น เซน แต่ก็ไม่น่า เบื่อด้วยดีไซน์ที่เป็นเหลี่ยมมุมของตัวก๊อก ทั้ง ยังจับกระชับ แข็งแรง ทนทานมากยิ่งขึ้น

คอลเลกชันที่ 5 Qualita (ควอ-ลิ-ต้า)

ชื่อก็บอกอยู่แยู่ ล้วว่าคือ คอลเลกชันแห่ง Quality หรือความคุ้มค่า ถ้าพูดถึงว่าคอลเลกชันไหนที่คุ้มค่าที่สุด บอดี้ใหญ่ กระชับ แข็งแรงที่สุดในซีซันนี้ เราขอยกให้ Qualitaเพราะ Qualita มาพร้อมบอดี้ที่ใหญ่ ทำให้สินค้าแต่ละชิ้นดูเฟิร์มเป็นพิเศษ แถมราคายัง คุ้มค่า เหมาะกับห้องน้ำที่เน้นการใช้งานมากเป็นพิเศษ แถม ยังมีทั้งก๊อกขนาดใหญ่ ก๊อกขนาดเล็ก ก๊อกยืนอาบ ก๊อกลง อ่าง เรียกว่าเหมาะกับห้องน้ำ ทุกสไตล์

คอลเลกชันที่ 6 Creativo (ครี-เอ-ทิ-โว่)

หากใครกำ ลังมอง หาก๊อกน้ำ สไตล์วินเทจ ขอให้พุ่งมาที่คอลเลกชัน Creativo เพราะก๊อกทั้ง 4 ตัวของคอลเลกชันนี้คือตัวแทนของความย้อนยุค ดีไซน์เน้นความกลมมนและปากก๊อกที่ยาวเป็นพิเศษ ทำให้ห้องน้ำ ย้อนไปสู่ยุค 60-70 ที่ตอนนี้เป็นเทรนด์การแต่งห้องน้ำ ที่ได้รับความนิยมสุดๆ หรือใครที่ต้องการ ความครีเอทีฟ แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ก็สามารถช้อปก๊อก คอลเลกชันนี้ไปตกแต่งห้องน้ำได้เลย

ยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะ Paini ซีซันนี้ยังมีสินค้าใหม่อย่างฝักบัวสายอ่อน สายฉีดชำ ระ สะดืออ่าง สต็อปวาล์วและเรนชาวเวอร์ ที่ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และประสิทธิภาพการใช้งานที่เหนือใครตามคอนเซปต์ Beyond Style, Beyond Performance และขอย้ำ ความมั่นใจอีกครั้งว่าสินค้าของ Paini ทุกรุ่นทุก ประเภท รับประกันตลอดอายุการใช้งาน

บีเจซี บิ๊กซี จัดการแข่งขันโครงการ “Big C ดนตรีไทย ปีที่ 4 ” รอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่

คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการแข่งขันโครงการ Big C ดนตรีไทย ปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด “โสตศิลป์สืบสานดนตรีไทย เพราะดนตรีไทยคือสมบัติของแผ่นดิน” ณ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาเชียงใหม่ 2 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568

โครงการนี้จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ส่งเสริมศักยภาพและทักษะทางดนตรีไทยของเยาวชนและครูดนตรี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในรอบคัดเลือก มีเยาวชนส่งผลงานเข้าร่วมแข่งขันกว่า 1,900 ทีมทั่วประเทศ โดยโครงการดังกล่าวถือว่าได้เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถสู่สาธารณชน ณ ห้างบิ๊กซี เพื่อชิงแชมป์ในระดับภูมิภาค และเป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขันระดับประเทศเพื่อชิง 12 ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษาและรางวัลรวมมูลค่ากว่า 850,000 บาท จำนวน 188 รางวัล

ซึ่งในปีนี้ บิ๊กซี จัดการประกวดแข่งขันในบิ๊กซี 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ณ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาเชียงใหม่ 2 ภาคกลางและภาคตะวันออก ณ บิ๊กซี สาขาราชดำริ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ บิ๊กซี สาขาขอนแก่น 1 ภาคใต้และภาคตะวันตก ณ บิ๊กซี สาขาสุราษฎร์ธานี

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ เปิดโอกาสให้เยาวชนจากทั่วภูมิภาคเหนือได้แสดงความสามารถในประเภทต่าง ๆ ทั้ง ประเภทเดี่ยวและคู่ (รุ่นอายุ 6-12 ปี และ 13 -19 ปี) และ ประเภท Trio (รุ่นอายุ 6-15 ปี และ 16-25 ปี) ซึ่งเป็นรายการใหม่ที่ผสมผสานเครื่องดนตรีไทยร่วมกับเครื่องดนตรีสากล ผู้ชนะจะเป็นตัวแทนของภาคเหนือ

เพื่อเข้าแข่งขันในรอบชิงแชมป์ระดับประเทศ ชิง 12 ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเดือนตุลาคม 2568 นี้

 

” มาดามหยก “ สืบสานประเพณีล้านนา ร่วมทำบุญ 12 เป็ง และสลากภัต ณ วัดยางกวง เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 เจ้าอาวาสวัดยางกวง จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรม ทำบุญ 12 เป็ง และการตานก๋วยสลากร่วมกับประชาชน ชาวบ้าน และลูกศิษย์ที่นับถือ

พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทฺธิวาที เจ้าอาวาสวัดยางกวง จ.เชียงใหม่ ได้กล่าวถึงงานประเพณี 12 เป็ง และการตานก๋วยสลากที่วัดนั้น ได้รับเกียรติจากคุณกชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก ถวายการตานก๋วยสลากร่วมกับคณะฯ และร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์ พระวิหารลายคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐ์ฐาน องค์พระพุทธรูป นามว่า พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญ ที่องค์พระยาเม็งรายมหาราช ได้ทรงสถาปนาขึ้นไว้

“ ประเพณี 12 เป็ง เป็นประเพณีของชาวล้านนาตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 เหนือ (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ภาคกลาง) ที่เชื่อว่าพญายมราชจะปล่อยวิญญาณผู้ล่วงลับ (เปรต) จากนรกให้กลับมายังโลกมนุษย์เพื่อรับส่วนบุญกุศลจากญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ ในวันนี้ ชาวล้านนาจะพากันไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษ และมีการทำบุญฟังเทศน์พระธรรม เพื่อให้เหล่าเปรตหลุดพ้นจากความทุกข์ ”

และสลากภัตคือทานที่ไม่เจาะจง ต่างคนต่างฝ่ายต่างบริสุทธิ์ที่มาทำบุญร่วมกัน เชื่อว่าจึงเป็นบุญที่มีอนิสงฆ์มาก เพราะไม่เจือโดยความโลภ ความโกรธ นั่นเอง

ทั้งนี้ คุณกชพร เวโรจน์ หรือมาดามหยก หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ และในฐานะที่ปรึษาประธานกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และในฐานะประธานชมรม Change Together byมาดามหยก และ INDY TEAM ได้พูดถึง การร่วมทำบุญประเพณี 12 เป็งแบบล้านนาที่วัดยางกวง จังหวัดเชียงใหม่ว่า การจัดกิจกรรมแบบนี้ ถือเป็นการทำบุญให้แก่ผู้ลวงลับไปแล้วได้รับบุญกุศลจากญาติที่ร่วมทำบุญอุทิศไปให้ มองว่ากิจกรรมแบบนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีทำให้เป็นการบำรุงศาสนา และให้ประชาชนระลึกถึงบรรพบุรุษ อีกด้วย นอกจากนั้น ยังเป็นการกลับมาดูแลพระวิหารลายคำ พระพุทธรูปองค์สำคัญ ของวัดครั้งที่เคยสนับสนุนการปัจจัยบูรณะปฏิสังขรณ์

กิจกรรมวันนี้ มาดามหยกได้นำอาหาร อาทิไก่ทอด หมูทอด ส้มตำ ข้าวเหนียวและอื่นๆ ร่วมถวายทานในกิจกรรม 12 เป็งครั้งนี้ ทั้งนี้ ยังฝากถึงคนรุ่นใหม่ ไม่ใช้แต่คนรุ่นหลังให้ระลึกถึงประเพณีที่ดีงามแบบนี้ คงคู่กับชาวล้านนาของเราต่อๆ ไป ซึ่งมองว่าวัฒนธรรม ประเพณีของชาวล้านนา เรามีเสน่ห์ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้

ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนภาครัฐและกองทัพไทยเสริมสัญญาณสื่อสาร 5G-4G-3G บนภูมะเขือ

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 – ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าสนับสนุนภารกิจภาครัฐและกองทัพไทย ขยายสัญญาณ 5G-4G บนคลื่น 700 MHz และเสริม4G-3G บนคลื่น 2100 MHz ไปยังภูมะเขือได้สำเร็จซึ่งทำให้ปัจจุบันเจ้าหน้าที่บนภูมะเขือสามารถสื่อสารได้ด้วยสัญญาณทรู จากการส่งสัญญาณด้วยเสามือถือทรูที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ไปถึงพื้นที่บนภูมะเขือ พร้อมเร่งเดินหน้าสำรวจพื้นที่ร่วมกับภาครัฐ กองทัพ และกสทช. เพื่อติดตั้งเสาสื่อสารบนภูมะเขืออย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารในพื้นที่ชายแดนและสนับสนุนกองทัพไทย

สำหรับการขยายสัญญาณแบบเร่งด่วน ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ทำการเชื่อมเครือข่ายดังกล่าวด้วยการปรับทิศทางการรับส่งสัญญาณจากเสาสัญญาณที่ติดตั้ง ผามออีแดง โดยนำคลื่น 700 MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ต่ำ (Low-band) มีประสิทธิภาพสูงในการกระจายสัญญาณได้ไกลสามารถรองรับ 5G และ 4G พร้อมกับนำคลื่น 2100 MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่กลาง (Mid-band) มาเปิดเสริม 4G และ 3G ให้ครอบคลุมพื้นที่สูงบนภูมะเขือ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสื่อสารและใช้งานวอยซ์และอินเทอร์เน็ตในกรณีเร่งด่วนได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สนับสนุนตามคำขอของภาครัฐในการเพิ่มสัญญาณเพื่อภารกิจความมั่นคงและปฏิบัติควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมเสาสัญญาณของ กสทช.

พร้อมกันนี้ สำหรับแผนระยะยาว ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ กองทัพ และ กสทช. ในการลงพื้นที่สำรวจเพิ่มเติมร่วมกันสำหรับวางแผนตั้งเสาสัญญาณมือถือบนภูมะเขืออย่างยั่งยืนในระยะต่อไป เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารดิจิทัลในพื้นที่ชายแดนให้มั่นคงตามคำขอภาครัฐ

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ทรูมีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและกองทัพ ด้วยศักยภาพเครือข่ายที่ทันสมัยและครอบคลุม เพื่อให้ภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการส่งสัญญาณจากสถานีฐานผามออีแดงถึงภูมะเขือนับเป็นการสนับสนุนเฉพาะกิจแบบเร่งด่วน และเรากำลังเดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ กองทัพ และกสทช. เพื่อติดตั้งเสาสัญญาณอย่างยั่งยืนบนภูมะเขือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นต่อไป”

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ปฏิบัติตามมาตรการกสทช. อย่างเข้มงวดในการควบคุมสถานีฐานบริเวณชายแดนตลอดมา ซึ่งรวมถึงการดำเนินการรื้อเสา ถอดอุปกรณ์ และปรับลดความสูงตามกำหนด เพื่อไม่ให้นำสัญญาณโทรศัพท์มือถือไปใช้นอกเขตประเทศไทย

นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังนำระบบ AI-CODC (Cell Outage Detection & Compensation) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ตรวจสอบสัญญาณสถานีฐานมาใช้งาน โดยระบบนี้เป็น SelfHealing Network ใช้ปัญญาประดิษฐ์บริหารจัดการเครือข่ายและมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์เมื่อสถานีฐานขัดข้อง ระบบจะปรับจูนสัญญาณอัตโนมัติจากสถานีใกล้เคียงมาชดเชย ทำให้ยังคงใช้บริการได้ต่อเนื่องและลดความเสี่ยงของทีมเน็ตเวิร์กในพื้นที่ชายแดนที่ยังมีความขัดแย้ง