“ บ้านของแม่ ”(Barn Khong Mae ) บ้านพักสไตล์โมเดิร์น แหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรและสถานที่พักผ่อนสำหรับทุกครอบครัว

เปิดอย่างเป็นทางการบริษัท บ้านของแม่ จำกัด ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการ “บ้านของแม่” (Barn Khong Mae )ให้เป็นโครงการศูนย์การเรียนรู้ครบวงจร ซึ่งผสานเอาการพักผ่อนแบบ บ้านพักต่างอากาศ ที่อบอุ่น เข้ากับการเรียนรู้ด้าน การท่องเที่ยวเชิงเกษตร อย่างยั่งยืน โดยภายในพื้นที่มีทั้ง แปลงผักเพาะปลูก สัตว์เลี้ยง ร้านอาหารและกาแฟ รวมถึงกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับครอบครัวและเด็ก

โครงการบ้านของแม่แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นพื้นที่แห่งความสุข ที่ให้ผู้คนได้สัมผัสชีวิตเกษตรกรรมอย่างใกล้ชิด ได้พักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ และส่งเสริมสายสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวผ่านกิจกรรมที่สนุกและได้ความรู้

คุณหนิง จิตตรา ปัญญชัย ผู้ที่ก่อตั้ง โครงการบ้านของแม่  อยากให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เชิง เกษตรและสถานที่พักผ่อนสำหรับทุก ครอบครัว เด็กๆ จะได้เรียนรู้วิถีธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมสนุก ๆ เช่น การปลูกผัก สัตว์ และทำอาหารพื้นบ้านร่วมกัน และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับชุมชน มีพื้นที่ให้ชุมชนได้จำหน่ายสินค้า

“บ้านของแม่ ” บ้านพักสไตล์โมเดิร์น โดยมีห้องพัก 11 ห้อง แบ่งเป็น 2 แบ่ง 1. ห้องเตียงเดี่ยว  5 ห้อง 2.ห้องเตียงคู่  6 ห้อง ภายในโครงการฯ ประกอบไปด้วย ห้องครัว ห้องรับแขก ห้องคาราโอเกะ จุดชมวิวน้ำตก และดาดฟ้าดูดาว อีกด้วย

เพราะ “บ้านของแม่” ไม่ใช่แค่สถานที่… แต่คือความรู้สึกของการได้กลับบ้าน กลับไปสู่ความเรียบง่าย อบอุ่น และเต็มไป ด้วยความรัก

“ บ้านของแม่” ตั้งอยู่ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์โทร 092 3147229

 

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ปรับเวลาให้บริการช่วงยี่เป็ง เพิ่มมาตรการเข้มป้องกันโคมลอย พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารเต็มที่

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นายการันต์ ธนกุลจีรพัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรองรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลยี่เป็งหรือวันลอยกระทง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ปรับเวลาทำการบิน โดยเที่ยวบินสุดท้ายจะทำการบินได้ถึงเวลา 19.00 น. เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่อนุญาตให้ปล่อยโคมลอย ซึ่งอาจกระทบต่อความปลอดภัยในการบิน
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า วันละ 32,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติร้อยละ 17 ท่าอากาศยานเชียงใหม่จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและแนะนำการใช้ระบบ Self-Service อาทิ เครื่องเช็กอินอัตโนมัติ (CUSS), ระบบรับฝากสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD/SBD) และระบบตรวจสอบบุคคลด้วยใบหน้า (Biometric System) เพื่อช่วยลดความแออัดและเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ

ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 พบว่า มีเที่ยวบินที่ยกเลิกและเปลี่ยนแปลงรวม 161 เที่ยวบิน โดยเป็นเที่ยวบินยกเลิก 65 เที่ยวบิน (ภายในประเทศ 41 เที่ยวบิน และระหว่างประเทศ 24 เที่ยวบิน) และเที่ยวบินเปลี่ยนแปลงเวลา 96 เที่ยวบิน (ภายในประเทศ 64 เที่ยวบิน และระหว่างประเทศ 32 เที่ยวบิน) พร้อมกันนี้ ยังมีการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษอีก 44 เที่ยวบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางกลับหลังเทศกาล
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เพิ่มความถี่ในการตรวจทางวิ่งและทางขับจากวันละ 6 รอบ เป็น 8 รอบต่อวัน เพื่อเก็บซากโคมที่อาจปลิวเข้ามาในเขตการบิน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการปล่อยโคมลอยและโคมควันอย่างใกล้ชิด พร้อมสามารถเข้าดำเนินการเก็บซากได้ทันทีเมื่อได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือนักบิน อีกทั้งยังร่วมกับหน่วยงานด้านความปลอดภัยสุ่มตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของพนักงานในเขตการบิน เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
ในด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้จัดตกแต่งอาคารผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ ระหว่างวันที่ 1–7 พฤศจิกายน 2568 ด้วยวัสดุจากธรรมชาติและงานหัตถกรรมพื้นบ้านล้านนา พร้อมจัดกิจกรรมสาธิตการทำกระทงจากดอกบัว และแจกกระทงกะลาเป็นของที่ระลึกแก่ผู้โดยสารในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 บริเวณหน้าห้องผู้โดยสารขาเข้า อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยกิจกรรมดังกล่าวดำเนินการตามแนวทางพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในด้านความพอเพียงและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

นายการันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็ง สายการบินทุกสายได้ปรับตารางบินให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 19.00 น. ส่งผลให้มีเที่ยวบินหนาแน่นตลอดทั้งวัน อีกทั้งกิจกรรมยี่เป็งในตัวเมืองเชียงใหม่อาจทำให้การจราจรรอบสนามบินหนาแน่น จึงขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน

“อภิสิทธิ์” ขึ้นเหนือพบปะสาขาพรรคปชป.เชียงใหม่- ลำพูน พร้อมเร่งฟื้นฟู สร้างความแข็งแรงพรรรค ก่อนศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาร่วมถวายผ้าพระกฐินประทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ ทอดถวาย ณ วัดชัยชนะ ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน และได้ถวายโคมเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระธาตุหริภุญชัย ในเทศกาลโคมแสนดวง ที่ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร และสักการะพระนางจามเทวี ที่ ลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี จ.ลำพูน โดยมี นายวิชิต กลิ่นทอง ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการสรรหาผู้สมัคร พร้อมด้วยกรรมการสาขา จ.เชียงใหม่ ร่วมกันให้การต้อนรับ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เปิดเผยว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แม้ว่ากกต.ยังไม่ได้รับรองกรรมการบริหารชุดใหม่ เบื้องต้นคือการเปิดกว้างเชิญผู้รู้มาให้ข้อคิดและกระบวนการนี้ก็ยังจะเดินต่อไปอีกระยะหนึ่ง  สัปดาห์หน้าก็จะมีการจัดเวทีในเรื่องของการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และดิจิตอลแพลตฟอร์มทั้งหลาย ซึ่งคิดว่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต แล้วก็สร้างโอกาสให้กับคนอีกจำนวนมาก

นอกจากนั้นก็มีเรื่องของผู้สมัคร เนื่องจากที่ตนเคยบอกไว้แล้วว่า ปัจจุบันก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งก็มีส.ส.หลายคนบอกว่าอาจจะไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์เนื่องจากไปเจรจาตกลงอะไรกันไว้ล่วงหน้ เพราะฉะนั้นการเร่งหาผู้สมัครก็เป็นเรื่องสำคัญซึ่งก็น่ายินดีว่าก็มีคนแสดงความจำนงเข้ามาพอสมควร วันนี้มาภาคเหนือก็พบกับกรรมการบริหารสาขาทุกคนก็กำลังใจดี สัปดาห์หน้าคงจะมีการพูดถึงเรื่องของการเชิญชวนให้คนที่อยากจะมาร่วมงานการเมืองตามอุดมการณ์ของเราแบบเปิดกว้าง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เราจะเปิดกว้างให้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามาร่วม เป็นการวางรากฐานในระยะยาวสำหรับพรรคด้วย ไม่ได้คิดถึงแค่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งต่อไป เพราะว่าต้องฟื้นฟูพรรคให้กลับมามีความแข็งแรงในเรื่องของจุดยืนที่ชัดเจนให้ประชาชนเข้าใจ แล้วก็ขณะนี้ก็คือคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามาสานต่อเยอะ เราทำงานไม่ได้ทำแค่เฉพาะหน้า แต่ทำเพื่อให้ให้พรรคได้อยู่คู่กับการเมืองไทยต่อไป

“สำหรับความคาดหวังจำนวนที่นั่งส.ส.ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ และไม่ว่าจะภาคไหนเป็นฐานของใคร เรามีความตั้งใจทำงานให้กับคนทั้งประเทศอยู่แล้ว ที่ผ่านมาในอดีตผมอยู่การเมือง มาอยู่กับประชาธิปัตย์ไปทุกจังหวัดก็มีคนที่สนับสนุนเรา มีคนที่มีความคิดความอ่านเหมือนกับพวกเรา เพียงแต่ว่าต้องไปกระตุ้นในบางพื้นที่ แล้วก็ในช่วงที่ผ่านมาเนี่ยก็อาจจะมีประเด็นที่พรรคการเมืองต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็อาจจะทำให้มีการตัดเสียงออกไปในหลายพรรค”นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า

เราก็ต้องการที่จะต่อสู้และส่งผู้สมัครแข่งขันทุกจังหวัด แต่ว่าเรายอมรับความเป็นจริงว่าด้วยสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว ก็เวลาที่จำกัดมาก ก็ต้องทำงานกันหนัก แต่ว่าจะเป็นอย่างไรเนี่ยอาจจะยังเร็วเกินไปที่จะประเมินคงต้องรอดูบรรยากาศเมื่อเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งอีกที และต้องสื่อสารให้ประชาชนรู้ว่า ถ้าบ้านเมืองไม่เดินไปบนเส้นทางของการมีหลักการและความสุจริต ไม่มีนโยบายในการบริหารประเทศที่อิงอยู่กับความเป็นมืออาชีพหรือหลักทางวิชาการ ถ้าบ้านเมืองไม่พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก เศรษฐกิจไทยประเทศไทยก็จะลำบากมาก แต่ถ้าต้องการคนที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของคนที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินทางไปในเส้นทางที่สุจริต เศรษฐกิจเติบโต ต้องการทำงานแบบมืออาชีพเพื่อสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกซึ่งหมายถึงการมีบทบาทในระหว่างประเทศด้วย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เนื่องจากขณะนี้ยังมีอีก 4 จังหวัดที่ยังไม่มีตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งตัวแทนจังหวัด มีผู้แสดงเจตจำนงจะลงสมัครก็มีทั้งคนเก่าและคนรุ่นใหม่ น่าจะประกาศได้สัปดาห์หน้ เพราะตอนนี้กกต.ยังไม่ได้รับรองกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่  และจะพยายามส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้ครบ

ได้เวลาแล้ว เพ็ทมาร์ทแฟร์ครั้งที่ 7 ระหว่าง 30 ตุลา – 2 พฤศจิกานี้ ที่ เชียงใหม่ฮอล์ เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม2568 คุณพิมพ์ลดา  ยิ่งเจริญธีรโชติกรรมการบริษัท เพ็ทมาร์ท เชียงใหม่ เอ๊กซ์ตร้าพลัส จำกัด จัดงานเพ็ทมาร์ทแฟร์ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 30 ตุลา – 2 พฤศจิกานี้ ที่ เชียงใหม่ฮอล์ เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

พบกับสินค้าแบรนด์ดัง ลดหนัก โปรแรง  ของแถมเพียบบบบบ  พร้อมตรวจสุขภาพ หู ตา และ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า น้องๆ ฟรี  และในวันที่ 30 ตุลา พบ ดัง ณัฐฐชัย วันที่ 1 พ.ย พบ หยิ่น -วอร์ และ 2 พ.ย พบ เพิรธิ์ และ แซนต้า

โดยพิเศษ รางวัลใหญ่เตรียมชุดลายดอกทานตะวันให้พร้อม  เพราะงานนี้ถ้าใครแต่งตัวเข้า Theme งาน แอบกระซิบว่าพวกเรามีของแจกให้จุกๆเล้ยยย แถมมีลุ้นรางวัลใหญ่อีกด้วย

ศูนย์การค้าเมญ่าฯ เตรียมความพร้อม “ซ้อมดับเพลิง-อพยพหนีไฟ” ประจำปี 2568

ศูนย์การค้า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ จัดอบรมดับเพลิงขั้นต้น และซ้อมอพยพหนีไฟ ประจำปี 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เจ้าหน้าที่ศูนย์การค้าฯ ในการดูแลความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น โดยมีนายธณวัฒน์ ญาณเรืองโรจน์ และทีมงาน วิทยากรพิเศษ จากศูนย์ฝึกอบรมการดับเพลิง หจก.นานา เซฟตี้ เซ็นเตอร์ พร้อมด้วยนายปิยะพงษ์ ชัยนำ วิทยากรพิเศษ หลักสูตรการอบรมภัยคุกคามรูปแบบใหม่ จากสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก มาอบรมให้ความรู้ นอกจากนี้ยังมีนายศรายุทธ ทองร่มโพธิ์ ผู้บริหารศูนย์การค้า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ เป็นผู้อำนวยการควบคุมการดับเพลิง พร้อมทั้งเทศบาลช้างเผือก, เจ้าหน้าที่ศูนย์การค้าฯ และพนักงานร้านค้า เข้าร่วมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การค้า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์

การฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นการฝึกซ้อมแบบเสมือนจริงภายใต้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ โดยสร้างสถานการณ์จำลองเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ณ บริเวณชั้น 2 ของศูนย์การค้าฯ เจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุในรูปแบบต่างๆ พร้อมทำการอพยพผู้คนออกนอกศูนย์การค้าฯ อย่างมีแบบแผน ทั้งนี้การฝึกซ้อมดังกล่าวได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งหวังให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพนักงาน และร้านค้าภายในศูนย์การค้าฯ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในด้านระบบความปลอดภัยให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทุกท่าน

5 พ.ย. นี้ “ซูเปอร์ฟูลมูน” คืนลอยกระทง ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผย 5 พฤศจิกายน 2568 “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี” คืนลอยกระทง ดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย หากฟ้าใส ไร้เมฆฝน ชมได้ด้วยตาเปล่าตลอดทั้งคืน

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งตรงกับคืนลอยกระทงของไทย ดวงจันทร์เต็มดวงจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้โลกที่สุดในรอบปี หรือที่นักดาราศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน” (Super Full Moon) คืนดังกล่าวดวงจันทร์จะมีระยะห่างจากโลกประมาณ 356,966 กิโลเมตร เริ่มสังเกตดวงจันทร์ได้หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลาประมาณ 17:30 น. จะเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเพียงเล็กน้อย สว่างเด่น ชมได้ตลอดทั้งคืน

นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วดวงจันทร์ใช้เวลาโคจรรอบโลกประมาณ 1 เดือน และมีรูปแบบการโคจรเป็นวงรี ส่งผลให้ในแต่ละเดือนดวงจันทร์จะมีตำแหน่งที่ใกล้โลกที่สุด เรียกว่า เปริจี (Perigee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 357,000 กิโลเมตร และตำแหน่งที่ไกลโลกที่สุด เรียกว่า อะโปจี (Apogee) มีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 406,000 กิโลเมตร การที่คนบนโลกสังเกตเห็นดวงจันทร์มีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่าปกตินั้น เป็นเหตุการณ์ที่สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์

สดร. เตรียมตั้งกล้องโทรทรรศน์ เปิด 5 จุดสังเกตการณ์หลัก เชิญชวนประชาชนชม “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี” คืนลอยกระทง ตั้งแต่เวลา 18:00 – 22:00 น. ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น นครราชสีมา และสงขลาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมจัดพิธีแสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ปรับรูปแบบให้เหมาะสม และขอความร่วมมือผู้ร่วมกิจกรรมแต่งกายในชุดโทนสีสุภาพร่วมงาน

จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระพุทธมนต์ อุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดสวนดอกพระอารามหลวง จ.เชียงใหม่

วันนี้ (28 ต.ค. 68) จังหวัดเชียงใหม่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระพุทธมนต์ อุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ วัดสวนดอกพระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และวัดต่างๆ ทั่วจังหวัด โดยมีนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนราชการ ตลอดจนพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมบำเพ็ญกุศลด้วยการสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา รักษาศีล ฟังธรรม และปฏิบัติธรรม ตามแต่ละวัด เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

จ.ชม.ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลยี่เป็งปี 68

เมื่อวันที่ 28  ตุลาคม 2568 ที่ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดย พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว และลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลยี่เป็ง ๒๕๖๘ โดยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัด เชียงใหม่ มณฑลทหารบกที่ 33 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่และภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดขึ้น เพื่อ เป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งเป็น เทศกาลสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ และมีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทย และต่างชาติ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่นักท่องเที่ยวรอคอย

การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันและลดการเกิดอาชญากรรม อุบัติเหตุทางถนน และเหตุ เพลิงไหม้ในช่วงเทศกาลลอยกระทง รวมทั้งเป็นการแสดงความพร้อมของทุกภาคส่วนในการ บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติเพื่อเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน คอยดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเทศกาลยี่เป็งในจังหวัดเชียงใหม่อย่างทั่วถึง

ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มุ่งมั่นดำเนินงาน ตามโครงการรณรงค์ให้ความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เทศกาลลอยกระทงของจังหวัดเชียงใหม่เป็นงานประเพณีที่งดงาม ปลอดภัย และสร้างภาพลักษณ์ ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโครงการรณรงค์ให้ความรู้ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กิจกรรม “พิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลลอยกระทง” ประจำปีงบประมาณ 2568 มีจำนวน ตำรวจ พลเรือน และหน่วยอาสา กว่า 630 นาย

ผบช.ภ.5 ชื่นชม ตำรวจเชียงรายจับกุมผู้ต้องหา “ม้ากดเงิน” เพิ่มอีก 3 คน ขยายผลจากจับกุมม้ากดเงินชาวจีนพร้อมบัตร ATM 2,060 ใบ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2568 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.
ภ.5 ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย กรณี สภ.เมืองเชียงราย ได้ร่วมกับ ภ.5 และ ภ.จว. เชียงราย ทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมกลุ่มขบวนการ “ม้ากดเงิน” เพิ่มอีก 3 คน ขยายผลจากกรณีเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ได้ทำการจับกุม Mr.Hu สัญชาติจีน พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็ม 2,060 ใบ, เงินสด ประมาณ 540,000 บาท ,คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ นั้น ต่อมาโดยผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญและได้มอบนโยบายให้ทำการสืบสวนติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในวันที่ 25 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ร่วมกระทำความผิดได้ พบว่าเป็น น.ส.ศิรประภา อายุ 19 ปี ที่อยู่ ม.6 ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา ได้พักอาศัยอยู่ที่แมนชั่น ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงได้เรียกให้บุคคลภายในห้องแสดงตัว ต่อมา น.ส.ศิรประภา แสดงตัวเป็นเจ้าของห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งความประสงค์ขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบสมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม จำนวน 16 ชุด จากนั้นได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์พบว่าได้มีการติดต่อกับผู้ใช้แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก ซึ่งติดต่อมาจำนวนหลายครั้ง สอบถามให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบุคคลดังกล่าวคือนายแมน ที่จะมารับตนไปดูบ้านเช่าที่จะนำบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มทั้งหมดไปซุกซ่อนไว้
ต่อมาในเวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม 2568 ได้มีรถยนต์เก๋งเข้ามาจอดภายในบริเวณหอพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัว น.ส.ศิรประภาฯ อยู่ได้ให้สัญญาณเจ้าหน้าที่ที่วางกำลังโดยรอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าผู้ขับขี่คือนายพัทธนันท์ ที่ อยู่ ม.13 ต.ป่าแงะ อ.ป่าแดด จ.เชียงราย และผู้โดยสารคือ น.ส.นงคราญ ที่อยู่ ม.25 ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย โดยผลการตรวจสอบพบบัตรเอทีเอ็มระบุชื่อคนอื่นอยู่ภายในช่องเก็บของประตูฝั่งคนขับที่นายพัทธนันท์ฯขับขี่มา และพบบัญชีธนาคาร และซิมการ์ดโทรศัพท์ 2 ซิม จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ สอบถามรับสารภาพว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากนายพัทธนันท์ฯ และก่อนหน้านี้ได้เปิดบัญชีให้กับนายพัทธนันท์มาก่อนจำนวน 1 บัญชี โดยตนจะได้รับเงินตอบแทนรวม 40,000 บาท จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจค้นห้องพักที่อยู่ ม.15 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย บ้านพักของนายพัทธนันท์ฯ ผลการตรวจค้นพบเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 16 นัด (โดยได้ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ เพื่อให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป), บัตรเอทีเอ็ม 4 ใบ, สมุดบัญชี 3 เล่ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์ 4 ซิม, คอมพิวเตอร์ 1 ชุด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในการปฏิบัติการขยายผลในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีทั้งหมด 3 ราย คือ
1.น.ส.ศิรประภา อายุ 19 ปี ดำเนินคดีข้อหา “มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นไว้เพื่อออกใช้โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เป็นธุระจัดหา โฆษณา ไขข่าวด้วยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีธนาคาร และซิมการ์ดโทรศัพท์ ตามมาตรา 10 และ 11 พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
2.นายพัทธนันท์ ดำเนินคดีฐาน “มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่นไว้เพื่อออกใช้โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เป็นธุระจัดหา โฆษณา ไขข่าวด้วยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีธนาคาร และซิมการ์ดโทรศัพท์ ตามมาตรา 10 และ 11 พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
3.น.ส.นงคราญ ดำเนินคดีฐาน “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยประการที่ควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด ตาม ม.9 พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
รวมของกลางทั้งหมดที่ได้จากการขยายผลการจับกุม 3 คดี
1.สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็ม 16 ชุด
2.บัตรเอทีเอ็ม 4 ใบ
3.สมุดบัญชี 4 เล่ม
4.ซิมการ์ดโทรศัพท์ 6 ซิม
5.คอมพิวเตอร์ 1 ชุด
6.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 16 นัด

ในการนี้ พล.ต.ท.กฤตธาพล
ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ได้ชื่นชมผลการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งสามารถขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 3 รายดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้สั่งการให้ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม และได้ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนหากพบเบาะแสผู้ที่มีพฤติการณ์ต้องสงสัย รับซื้อขายบัญชีม้า ม้ากดเงิน ตลอดจนอาชญากรรมทุกประเภท โปรดโทรแจ้งสายด่วน 191 หรือแจ้งส่งข้อมูลผ่านช่องทาง Line ไอดี@police5 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

บรรยากาศช่วงบ่าย พสกนิกรชาวเชียงใหม่ยังคงทยอยเดินทางมาถวายน้ำสรงพระบรมศพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างต่อเนื่อง

บ่ายวันนี้ (26 ต.ค. 68) พสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงเดินทางมาถวายน้ำสรงพระบรมศพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และร่วมลงนามถวายความอาลัย กันอย่างต่อเนื่อง ณ อาคารรวงผึ้ง ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
โดยผู้ที่เดินทางมาร่วมพิธีในวันนี้มีประชาชนทุกช่วงวัย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาจากอำเภอต่างๆ ตลอดจนราษฎรบนพื้นที่สูงด้วย จากนั้นในเวลา 15.30 น. จังหวัดเชียงใหม่จะได้ประกอบพิธีถวายสักการะพระบรมศพ และพิธีบำเพ็ญกุศลสวดบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล อุทิศถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันได้มีการฉายพระวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้กับประชาชนที่เดินทางมาได้รับชม โดยมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำขั้นตอนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน