คิวท์เกินต้าน! MINISO เปิดแล้วที่สาขาเมญ่าฯ เชียงใหม่

คิวท์เกินต้าน! MINISO เปิดแล้วที่สาขาเมญ่าฯ เชียงใหม่พร้อมสองสาวอย่าง น้ำหนึ่ง–เนย ที่จะมาสร้างสีสัน และยังมีคอลเลกชันสุดน่ารักเพียบ!

MINISO แบรนด์ดังจากประเทศจีนจัดเต็มไอเท็มน่ารักสุดมินิมอล คอลเลกชันลิขสิทธิ์ของแท้จาก Sanrio และ Disney ราคาเริ่มต้นเพียง 19 บาท ไม่ว่าจะเป็น ของใช้, ของตกแต่ง, เครื่องเขียน, เครื่องสำอาง และอีกมากมาย มาให้เลือกช้อปกันแบบจุใจ

นอกจากนี้ ยังมีสองสาวสุดปังอย่าง น้ำหนึ่ง และ เนย มาร่วมฉลองเปิดร้านและทักทายแฟนๆ อย่างใกล้ชิด ในงาน Grand Opening MINISO สาขาเมญ่าฯ เชียงใหม่ โดยทั้งคู่ได้มาสร้างรอยยิ้ม เติมความสดใส และเพิ่มความคึกคักแบบสุดพิเศษ ให้กับทุกคน

โปรโมชั่นสุดพิเศษ! ช้อปครบ 800 บาท รับส่วนลดทันที 100 บาท ในวันที่ 6 ธันวาคม 2568 นี้เท่านั้น สามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ ณ ร้าน MINISO ชั้น 3 ศูนย์การค้า เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์

อรสิริน กรุ๊ป ผุดโปรเจค 2 โครงการใหญ่ แห่งใหม่ ย่านถนนมหิดล

THE FIRST REPLETE OF ORNSIRIN ON MAHIDOL DISTRIC อรสิริน กรุ๊ป ผุดโปรเจคเชื่อมโยงการใช้ชีวิต บน ถ.มหิดล เพียบพร้อมทั้ง THE BACKYARD MAHIDOL คอมมูนิตี้มอลล์ และ HABITAT MAHIDOL โครงการบ้านระดับ A LIST

วันนี้ (6 ธันวาคม 2568) อรสิริน กรุ๊ป ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เติบโตมากับธุรกิจอสังหาฯ ใช้ประโยชน์จากที่ดินและทราฟฟิก ยกระดับจังหวัดเชียงใหม่พัฒนาพื้นที่ย่านถนนมหิดล อีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพของเมืองเชียงใหม่ เอาใจทั้งสายช้อปปิ้งและคนรักบ้าน กับ 2 โครงการใหญ่ อย่าง “THE BACKYARD MAHIDOL” คอมมูนิตี้มอลล์ แห่งใหม่ สะท้อนแนวคิด ที่จะทำให้คุณได้มาพบปะและใช้ชีวิตในแบบ NEIGHBORHOOD MALL และ “HABITAT MAHIDOL” โครงการบ้านระดับ A LIST เชื่อมโยงทุกการใช้ชีวิต ทั้งสองโครงการกำหนดเปิดตัวพร้อมกันอย่างเป็นทางการ ก.พ. 69!! นี้

มาเริ่มกันที่โครงการ THE BACKYARD MAHIDOL คอมมูนิตี้มอลล์ แห่งใหม่ สะท้อนแนวคิด ที่จะทำให้คุณได้มาพบปะ และใช้ชีวิตในแบบ “NEIGHBORHOOD MALL” เพราะที่แห่งนี้ไม่ใช่แค่การมา “ช้อป” แต่สามารถรองรับทุกความสุขของทุกคนในครอบครัว มาร่วมจอย มาร่วมแจม ในไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเอง บนพื้นที่ที่ออกแบบมาให้เชื่อมโยงคุณกับการใช้ชีวิตอย่างลงตัว ชูการสร้าง VALUE EXPERIENCE เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเข้าถึง กับแนวคิด CONNECTION WITH AUDIENCE เชื่อมโยงการใช้ชีวิต เติมเต็มความสุขในทุกวัน

สำหรับคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง THE BACKYARD MAHIDOL ได้จัดให้มีกิจกรรม ON GROUND ACTIVITY ในคอนเซปต์ “HEART OF NEIGHBORHOOD” สร้างความสุขเชื่อมโยงผู้คนอย่างยั่งยืน สู่การเป็น ORNSIRIN FAMILY กับกิจกรรมแจกดอกไม้คอลเลคชั่นพิเศษและกระเป๋ากระสอบสุด UNIQUE พิเศษสุด สำหรับลูกบ้านอรสิรินและนักเรียนโรงเรียน MILLHILL ร่วมกิจกรรม WORKSHOP ศิลปะฟรี!! ตลอดเดือนธันวาคม 2568 นี้ ท่ามกลางบรรยากาศกลางสวนที่ทุกคนในครอบครัวมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วยกันได้ทั้งสวนสาธารณะ อบจ. และถนนคนเดินวัวลาย โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00น. – 19.00 น. หมุนเวียนเปลี่ยนสวนสร้างสีสันวันหยุดตลอดเดือนธันวาคม 2568 อาทิ วันที่ 6-7 ธ.ค. และ 13-14 ธ.ค. 68 สวนสาธารณะ อบจ. / วันที่ 20 และ 27 ธ.ค. 68 ถนนคนเดินวัวลาย

มาต่อกันที่โครงการระดับ A LIST ทางอรสิรินพร้อมเปิดตัว “HABITAT MAHIDOL” ซึ่งอยู่บนพื้นที่เดียวกันกับ THE BACKYARD MAHIDOL นับได้ว่าเป็นอีกก้าวของการพัฒนาที่ดินให้ได้ประโยชน์สูงสุด เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยยกระดับให้ชาวเชียงใหม่บนเส้นถนนมหิดล พร้อมเชื่อมโยงทุกการใช้ชีวิต โดยเปิดให้จองได้ในช่วงต้นปีหน้า

โครงการ HABITAT MAHIDOL เป็นที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรีใจกลางเมือง ชูจุดเด่นด้านทำเลที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขา สัมผัสความงามเหนือกาลเวลาผ่านการออกแบบสไตล์ NEOCLASSIC ที่รังสรรค์เพื่อผู้นำชีวิตมีระดับ เปิดประตูสู่ชีวิตที่สง่างาม กับบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานสถาปัตยกรรมยุโรปคลาสสิก ผสานความหรูหราและเรียบง่ายไว้อย่างลงตัวในสังคมคุณภาพและเป็นส่วนตัวเพียง 29 ยูนิต พร้อมสัมผัสความอลังการของ CLUBHOUSE และสิ่งอำนวยความสะดวกเหนือระดับอย่างครบครัน

• THE BACKYARD MAHIDOL ติดต่อจองพื้นที่เริ่มต้นธุรกิจของคุณก่อนใคร โทร 064 339 7666 , LINE OA: @ornsirin , Facebook Page: The Backyard Mahidol

• HABITAT MAHIDOL สอบถามรายละเอียดได้ที่
โทร 096-3355-656 , LINE OA: @ornsirin , Facebook Page: ornsirin plc

*บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

 

#TheBackyardMahidol #อรสิริน #OrnsirinFamily #NeighborhoodMall
#HabitatMahidol #NEOCLASSIC #ย่านมหิดล #โครงการบ้านถนนมหิดล

CEA ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่เปิด “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568” ปีที่ 11 ยกระดับท้องถิ่นสู่สากลด้วยแนวคิด “โลคัลพลัส” ต่อยอดพลังท้องถิ่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยศิลปิน นักสร้างสรรค์ ชุมชน และเครือข่ายพันธมิตรจากทั้งในและต่างประเทศ ร่วมเปิด “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568” หรือ “Chiang Mai Design Week 2025” (CMDW2025) อย่างเป็นทางการ เป็นปีที่ 11 ภายใต้ธีม “Local Plus: Creativity, Technology, Sustainability ร่วมมือกันสร้างสรรค์เติบโต” ตลอด 9 วันของเทศกาลฯ มีนักสร้างสรรค์จากภาคเหนือและภูมิภาคอื่น ๆ ร่วมจัดงานรวมกว่า 166 คน และเครือข่ายนักสร้างสรรค์ต่างประเทศ 15 ประเทศ คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 350 ล้านบาท จากเดิมที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจตลอด 10 ปี กว่า 5,700 ล้านบาท พร้อมดึงดูดผู้เข้าร่วมงานและนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกว่า 1 ล้านคน

เทศกาลฯเชื่อมโยงนักสร้างสรรค์และผู้ประกอบการท้องถิ่นของภาคเหนือร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อเดินหน้าต่อยอด“ทุนจากวัฒนธรรม” ให้กลายเป็น “ทุนเศรษฐกิจ” ที่ดึงดูดนักลงทุนและโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ ตอกย้ำบทบาทของเทศกาลฯ ในฐานะเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือสู่ระดับนานาชาติ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 14 ธันวาคม 2568 ณ ย่านกลางเวียง, ช้างม่อย – ท่าแพ และสันป่าข่อย จังหวัดเชียงใหม่  สำหรับพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คุณ    ไชยยง รัตนอังกูร ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พร้อมด้วย ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้เกียรติร่วมพิธีในวันที่ 6 ธันวาคม 2568 ณ TCDC เชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่เป็นงานที่สะท้อนพลังของคนเชียงใหม่และเสน่ห์ของเมืองที่ไม่เคยหยุดนิ่ง จังหวัดเชียงใหม่มีนโยบายการสร้างภาพลักษณ์เมือง (City Branding) ให้เป็นที่ยอมรับและจดจำในระดับนานาชาติ ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยว ‘12 เดือน 12 ธีม’ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนสามารถสัมผัสประสบการณ์ของเชียงใหม่ครบทุกมิติ ทั้งภูมิประเทศ ธรรมชาติ วัฒนธรรม ธุรกิจท้องถิ่น ประเพณี และวิถีชีวิต โดยเดือนธันวาคม ถูกกำหนดให้เป็นเดือนแห่ง Creativity & Design โดยมีเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่จะทำให้เห็นว่าศิลปะ การออกแบบ และวัฒนธรรมท้องถิ่น สามารถเชื่อมโยงโอกาสทั้งจากการท่องเที่ยวและการลงทุนในระดับโลกได้จริง เทศกาลฯ นี้ไม่เพียงสร้างเสน่ห์ให้เมืองในฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ยังตอกย้ำว่าเชียงใหม่คือเมืองที่เปิดรับโอกาสใหม่ ๆ จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน และพร้อมเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์และยกระดับให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ที่โดดเด่นของภูมิภาค”

คุณไชยยง รัตนอังกูร ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 โดยหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภาคเหนือเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย CEA ตั้งเป้าให้เทศกาลฯ เติบโตจาก ‘เทศกาลงานออกแบบ’ ไปสู่การเป็น ‘เครื่องมือสร้างภาพลักษณ์เมือง (City Branding)’ ที่สำคัญของเชียงใหม่ เพื่อช่วยให้เมืองนี้ก้าวข้ามภาพจำเดิมจาก ‘เมืองท่องเที่ยว’ ไปสู่การเป็นเมืองที่ ‘Crafting Wellness from Local Essence, Inspiring Asia’ และกลายเป็นจุดหมายของนักสร้างสรรค์และนักลงทุนจากทั่วโลกในหลากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพและความงาม (Wellness), การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์, หัตถกรรม, ดนตรี, อาหาร แฟชั่น และดิจิทัลคอนเทนต์ ตลอดจนสะท้อนพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการผลักดันเชียงใหม่และภาคเหนือให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติ”

“นอกจากนี้ CEA ยังคงเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของภาคเหนืออย่างต่อเนื่องและครอบคลุม ทั้งการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านทักษะสร้างสรรค์ เช่น การจัดตั้ง TCDC แห่งใหม่ใน 4 จังหวัดของภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย, แพร่, อุตรดิตถ์ และพิษณุโลกโดยมีแผนจะเปิดให้บริการปี2569การขยายเครือข่ายนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการเสริมศักยภาพนักสร้างสรรค์ผู้ประกอบการ และเยาวชน รวมทั้งผลักดันภาคเหนือให้เติบโตเป็น ‘Creative Region’ ที่แข็งแกร่งในทุกมิติ”

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า “เทศกาลฯ มี 3 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่ 1. การเฉลิมฉลองนักสร้างสรรค์คืนถิ่น (Homecoming) สนับสนุนการกลับมาร่วมสร้างเมืองของคนเชียงใหม่รุ่นใหม่ 2. การสืบสานวิถีท้องถิ่นที่ยั่งยืน (Local Sustainable Living) เสริมความเข้มแข็งของทุนทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และ 3. การสร้างพื้นที่แห่งโอกาสใหม่ (New Opportunities) เพื่อให้ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และเครือข่ายนักสร้างสรรค์ มีพื้นที่เติบโตและขยายสู่ตลาดใหม่ โดยมีเครือข่ายจาก 15 ประเทศทั้งในเอเชียและยุโรปเข้าร่วมเทศกาลฯ ในปีนี้ ร่วมจัดแสดงผลงาน รวมถึงสร้างความร่วมมือด้านการลงทุนในอนาคต สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำบทบาทของเทศกาลฯ ที่ไม่ใช่แค่การจัดอีเวนต์ แต่ยังเป็นตัวเร่งให้ธุรกิจท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สังคมไปต่อได้ และเศรษฐกิจขยายตัว ช่วยผลักดันเชียงใหม่ให้เติบโตในฐานะเครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

Local Plus: ต่อยอดพลังท้องถิ่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนเทศกาลฯ ปีนี้ถ่ายทอดแนวคิด “Local Plus” ที่ถูกถ่ายทอดผ่าน 5 สัญลักษณ์สำคัญ ได้แก่

เครื่องหมาย บวก (+): พลังร่วมของคนสร้างสรรค์ องค์กร และภาคส่วนต่าง ๆ ที่ร่วมกันทำให้เชียงใหม่และเมืองอื่น ๆ ในภาคเหนือ ยกระดับเมืองให้พร้อมสำหรับโอกาสใหม่ ๆ ของคอมมิวนิตี้สร้างสรรค์สาขาต่าง ๆ เช่น งานคราฟต์ (Craft), ความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ฯลฯ

เครื่องหมาย คูณ (×): ต่อยอดผลงานสู่มาตรฐานสากล ที่ “พลัส” พลังความร่วมมือกับนานาชาติกว่า 15 ประเทศ

เครื่องหมาย หาร (÷): แบ่งปันความรู้และนวัตกรรมในประเด็นที่ท้าทายบริบทโลก เช่น การรับมือกับภัยพิบัติในยุค “New Norm” ฯลฯ

เครื่องหมาย ลบ (-): ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเทศกาลฯ ถือเป็นต้นแบบของการจัดงานหรืออีเวนต์ ที่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สัญลักษณ์อินฟินิตี้ (∞): เติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ส่งเสริมภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ในฐานะเครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

โปรแกรมไฮไลต์สะท้อน “พลัง Local Plus” ตลอด 9 วันของเทศกาลฯ เทศกาลฯ นำเสนอโปรแกรมสร้างสรรค์กว่า 150 กิจกรรม ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ กลางเวียง, ช้างม่อย – ท่าแพ, สันป่าข่อย และพื้นที่อื่น ๆ ดังนี้ 

-Make Scents, Make Sense สถานที่ TCDC เชียงใหม่ เวลา 10.00 – 22.00 น. นิทรรศการที่เปิดมุมมองใหม่เรื่อง “กลิ่นหอม” ในหลากหลายมิติ ทั้งประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ร่วมกันสำรวจศักยภาพของพืชพรรณท้องถิ่นภาคเหนือซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่า และพร้อมต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางด้านกลิ่นของไทย เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Wellness ด้วยพลังแห่งกลิ่นหอมจากธรรมชาติ

-The Homecoming Club สถานที่ สมาคมส่งเสริมวัฒนธรรมสตรีศรีล้านนาไทย เวลา 10.00 – 22.00 น.กิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กลับบ้าน เล่าผ่านเรื่องราวของคนคืนถิ่น ถูกถอดรหัสออกมาเป็นคลับที่มีพื้นที่ต่าง ๆ รอให้ได้สำรวจ พร้อม “คู่มือการปิ๊กบ้าน” ในแบบฉบับของตัวเอง

-Days in Rainy Summer สถานที่ TCDC เชียงใหม่  เวลา10.00 – 22.00 น. นิทรรศการที่ชวนมาสัมผัสประสบการณ์เหนือจริงที่ “ลม” จะถูกนำเสนอในฐานะผู้เล่าเรื่อง ดำดิ่งสู่โลกของกระดาษสาทำมือจากสยามพรหมประทาน ที่ถ่ายทอดกลิ่นอายวัฒนธรรมล้านนา ผ่านแสง เสียง และการเคลื่อนไหวของลม

-Toy Laung (Art Toy)  สถานที่ หอพื้นถิ่นล้านนา เวลา 10.00 – 22.00 น. นิทรรศการ Art Toy Exhibition และตลาดจำหน่ายผลงานจากศิลปินเชียงใหม่และทั่วประเทศภายใต้แนวคิด “Land: Masks of Art – พื้นที่ หน้ากาก ศิลปิน” พร้อมกิจกรรมเวิร์กช็อปสร้าง Art Toy ทั้งในรูปแบบดิจิทัลและงานปั้นมือ 

-เส้นทางใหม่หางโจว สถานที่ หอกลางเวียง เวลา 10.00 – 22.00 น. นิทรรศการเส้นทางใหม่หางโจวจากประเทศจีน เส้นทางแห่งจินตนาการที่เชื่อมงานหัตถกรรม และการออกแบบร่วมสมัยไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด “The New Hangzhou Line” มาพร้อมกับเวิร์กช็อปสุดพิเศษที่จะพาสำรวจโลกของงานฝีมือแบบหางโจว ผสานมรดกวัฒนธรรมสู่การถักทอความคิดสร้างสรรค์สู่อนาคต

-CRAFTed to TASTE สถานที่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ เวลา 10.00 – 22.00 น. สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และ CEA สำนักภาคเหนือ ร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านศิลปะและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผ่านโครงการศิลปินพำนักระหว่างศิลปินเซรามิกจากฝรั่งเศสและไทย เพื่อสร้างสรรค์ผลงานร่วมสมัยที่เชื่อมโยงงานหัตถกรรมกับอาหารพื้นเมือง (Indigenous Food) ไปสู่เชิงพาณิชย์ พร้อมผลักดันภูมิปัญญาไทยสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน

-Russian Soul: modern heritage สถานที่ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เวลา 10.00 – 22.00 น. สภาธุรกิจรัสเซียไทย (Russian-Thai Business Council) ร่วมกับดีไซเนอร์จากรัสเซีย จัดนิทรรศการ “Russian Soul: modern heritage” ที่สะท้อนวัฒนธรรมระหว่างมรดกดั้งเดิมและดีไซน์ร่วมสมัย จากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ พร้อมเวิร์กช็อปโดยผู้เชี่ยวชาญจาก HSE Art and Design School เพื่อถ่ายทอดรัสเซียในมุมมองใหม่ และสร้างความร่วมมือสู่เวทีนานาชาติ

-นิทรรศการศิลปะไฟนีออน โดย สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย สถานที่ ห่าน สตูดิโอ เวลา 10.00 – 22.00 น.“Fractured Galaxy” นิทรรศการศิลปะไฟนีออนโดยไจลส์ไรเดอร์ (Giles Ryder) ศิลปินผู้หลงใหลและผูกพันกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน  ศิลปินนำเสนอผลงานผ่านศิลปะจากแสงไฟนีออน วัสดุ และแสงสะท้อนในฐานะเครื่องมือเล่าบริบทสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมไทยที่ได้รับอิทธิพลจากความเป็นสมัยใหม่ ตลอดจนบอกเล่าพื้นที่แห่งประสบการณ์และความผูกพันระหว่างศิลปินที่มีต่อประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

-North East India (Asthalakshmi) Pavilion สถานที่ หอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ เวลา 10.00 – 22.00 น.องค์กรพัฒนางานหัตถกรรมและผ้าทอมือแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ NEHHDC จากประเทศอินเดีย นำช่างฝีมือและผู้ประกอบการร่วมนำเสนอผลงานหัตถกรรมหลากหลายประเภท ตั้งแต่งานผ้าทอ งานจักสาน เครื่องประดับทำมือ การแสดงผลงานผ้าไหม Eri และผลงานการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมให้มรดกวัฒนธรรมและงานคราฟต์ของอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ

 -ด้วยวิถีและดวงดาว สถานที่ หอกลางเวียง เวลา 10.00 – 22.00 น. นิทรรศการที่ชวนผู้ชมมาสัมผัสความนิ่งจากจิตใจ ความสงบที่สร้างแรงบันดาลใจและความมั่นคงภายใน โดยถ่ายทอดผ่านศิลปะ 2 มิติ ที่แปลงภาพนิ่งเป็นภาพเคลื่อนไหว พร้อมสำรวจความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืน วิถีชีวิต และสิ่งรอบตัว

-ดอกไม้เริงระบำ สถานที่ มัก. ซีเอ็นเอ็กซ์ เวลา 16.00 – 23.00 น. นิทรรศการศิลปะการจัดดอกไม้ที่นำแรงบันดาลใจจากการเต้นรำ มาถ่ายทอดเป็นงานจัดดอกไม้ที่มีลีลาราวกับการเต้นรำ โดย โอภาส ยาคำมี (อัน) ศิลปินและนักจัดดอกไม้ชาวเชียงใหม่ พร้อมกับศิลปินจากฟินแลนด์ ฮ่องกง อินเดีย อิหร่าน เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ที่มาร่วมจัดดอกไม้ให้เริงระบำ ทว่างดงามในแบบฉบับของตนเอง

-Chiang Mai Street Jazz Festival 2025 สถานที่ โอลด์เชียงใหม่ (ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่) เวลา 17.00 – 23.00 น. (เวทีใหญ่ วันที่ 7 ธันวาคม 2568) เทศกาลดนตรีแจ๊สประจำปีสุดยิ่งใหญ่ที่ไม่ควรพลาด รวมศิลปินจากเครือข่ายเทศกาลดนตรีทั่วเอเชียและยุโรป มาร่วมสร้างพลังแห่งความสร้างสรรค์ผ่านเสียงดนตรี เทศกาลนี้คือสัญลักษณ์ของการรวมผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม ผ่านพลังของเสียงดนตรีแจ๊สและดนตรีร่วมสมัย เพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์

-Chiang Mai Ho Zix สถานที่ Uniserv CMU เวลา 16.30 – 23.00 น. (วันที่ 8 – 11 ธันวาคม 2568) 

เทศกาลดนตรีที่รวมศิลปินท้องถิ่นเชียงใหม่ไว้มากที่สุดแห่งปี กว่า 40 วง ถ่ายทอดเสียงแห่งตัวตนผ่านดนตรีหลากหลายแนว ตั้งแต่ลูกทุ่ง, Pop, Alternative Rock, Dream Pop, Rock & Roll, Blues, เพลงกำเมือง, Fusion Jazz ไปจนถึง Instrumental ตลอด 4 วันเต็มของเทศกาลฯ จะทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสพลังดนตรีสด ที่สะท้อนวิถีชีวิตและบรรยากาศสร้างสรรค์ของเมืองเชียงใหม่ได้อย่างแท้จริง

 

-LABBFest.2025 สถานที่ คลับ คร้าฟวิ่ง ซี.เอ็น.เอ็กซ์ เวลา 10.00 – 22.00 น.  (วันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2568)  การแสดงดนตรีสด (Live Performance) จากศิลปินไทยและต่างชาติ ที่ผสานเสียงดนตรีเข้ากับภาพเคลื่อนไหว เปิดโอกาสให้ศิลปินในเชียงใหม่ได้นำเสนอผลงานและแสดงศักยภาพกับเหล่าโปรโมเตอร์จากหลากหลายประเทศ

-CMDW Design Showcase | International & Thai Designers สถานที่ เอส.วี. เฟอร์นิเจอร์ เวลา 10.00 – 22.00 น. การจัดแสดงผลงานจากนักออกแบบทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ ที่ถ่ายทอดแนวคิดการออกแบบร่วมสมัยในหลายสาขา ตั้งแต่งานออกแบบผลิตภัณฑ์ แฟชั่น ไปจนถึงศิลปะเชิงทดลอง พร้อมเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ ที่สะท้อนศักยภาพของวงการออกแบบไทยสู่นานาชาติ

-กาดต่อนยอน ตอน หนัว สถานที่ โหล่งฮิมคาว  เวลา 10.00 – 22.00 น. (วันที่ 5 – 8 ธันวาคม 2568) 

“กาดต่อนยอน ตอน หนัว” ร่วมเฉลิมฉลอง 10 ปีชุมชนโหล่งฮิมคาว กับแฟชั่นโชว์งานหัตถกรรม ร้านค้า กิจกรรมเวิร์กช็อป อาหาร เครื่องดื่ม และนิทรรศการพิเศษ “10 ปี ชุมชนโหล่งฮิมคาว: There’s No Place Like Home” พร้อมเสวนาแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจ ที่จะทำให้ผู้มาเยือนหลงรักชุมชนแห่งนี้มากยิ่งขึ้น

เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2568 คือเวทีพิสูจน์ศักยภาพเมืองสร้างสรรค์ ที่จะตอกย้ำแบรนด์เชียงใหม่ และสะท้อนพลังสร้างสรรค์จากทุกภาคส่วนที่จะขับเคลื่อนเชียงใหม่และเมืองอื่น ๆ ในภาคเหนือให้เติบโตอย่างสร้างสรรค์ในระดับนานาชาติ พบกันวันที่ 6 – 14 ธันวาคม 2568 ณ ย่านกลางเวียง, ช้างม่อย – ท่าแพ, สันป่าข่อย และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่

“มาดามหยก” เปิดตัวหัวหน้าสาขาพรรคก้าวอิสระ คนใหม่ !(จ.เชียงใหม่) หัวใจจิตอาสาสู้ศึกเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 “มาดามหยก” นางสาวกชพร เวโรจน์ หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ จัดการประชุมเลือกตั้งกรรมการสาขาพรรคก้าวอิสระ ลำดับที่ 010 จังหวัดเชียงใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ มติเป็นเอกฉันท์ การสรรหาหัวหน้าพรรคสาขา และกรรมการสาขาพรรคคนใหม่ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง  ได้แก่ น.ส.นงลักษณ์ นพรัตน์ หรือ “น้องอิม”นักศึกษาสาขาวิศวกรรมการแพทย์ปี 2 มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคสาขาก้าวอิสระ เชียงใหม่ ร่วมกับคณะกรรมชุดใหม่ เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง ปี 69 ต่อไป

นางสาวกชพร เวโรจน์ หรือ “มาดามหยก”หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ เปิดเผยว่า พรรคก้าวอิสระพร้อมเปิดโอกาสและสนับสนุนคนรุ่นใหม่ทุกเพศทุกวัย ที่มีใจเป็นจิตอาสาเข้ามีบทบาทในการเมือง ทั้งนี้  การประกาศความพร้อมนำทัพผู้สมัครลุยศึกเลือกตั้งปี 69 คาดหวังปาร์ตี้ลิสต์ 10 – 15 ที่นั่ง ส่วน สส. 400 เขตนั้น มีผู้สนใจสมัครร่วมกับพรรคฯ กว่า 200 เขตทั่วประเทศ ทั้งนี้ การที่มีคนสมัครเข้าร่วมพรรคยังคงต้องรอการพิจารณาคุณสมบัติตรงตามความเหมาะสมของพรรค เพื่อช่วยกันช่วยเหลือสังคมทั่วประเทศ

นอกจากนี้ หากเกิดยุบพรรคก่อนกำหนด หลังวันที่ 31 มกราคมนั้น ตนและพรรคสามารถพร้อมขับเคลื่อนการเมืองต่อไปได้โดยไม่ได้ติดขัดอะไร อนื่องจากพรรคเรายังคงยืดมั่นในการทำความดีต่อสังคม ร่วมอุดมการณ์ใจจิตอาสาช่วยสังคม ช่วยประชาชน ทำการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยต่อไป ทั้งนี้ พรรคก้าวอิสระนอกจากจะช่วยเหลือสังคมแล้ว เรายังมองว่าการรักษาความมั่นคงของชายแดนยังเป็นอีกหนึ่งภาระกิจที่ควรกระทำเพื่อให้ชาติอยู่ในความสงบ และเศรษฐกิจปากท้องถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นกันปัญหาอุทกภัยที่ส่งผลให้ชาวเกษตรกรประสบปัญหาตามๆ กัน เราต้องการให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความสุขบนพื้นฐานประชาธิปไตยเท่าเทียมกัน

เชียงใหม่ร่วมใจทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568

จังหวัดเชียงใหม่จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ
เช้าวันนี้ (5 ธ.ค. 68) ที่ลานพระบรมราชาอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางวิยะดา นราดิศร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวเชียงใหม่ ร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
หลังจากพิธีทำบุญตักบาตร จังหวัดเชียงใหม่ยังได้จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ และพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีแห่งรัชสมัย

 

SUN จัดประชุมประจำปี 2568 เร่งสปีดปี 2569 ตั้งเป้าขยายตลาด พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของการเติบโตแบบก้าวกระโดด

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN จัดการประชุมประจำปี 2568 นำโดย ศาสตราภิชานไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท พร้อมด้วยคณะกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร และผู้จัดการ เข้าร่วมประชุม ณ สำนักงานใหญ่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสรุปผลการดำเนินงานและกำหนดทิศทางธุรกิจปี 2569 เพื่อเตรียมพร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและเป็นระบบมากขึ้น

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ปี 2569 เป็น “ปีแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของ SUN” โดยบริษัทเร่งยกระดับศักยภาพทั้งระบบ ตั้งแต่ธุรกิจหลัก เทคโนโลยี การผลิต บุคลากร ไปจนถึงมาตรฐานด้านความยั่งยืน รวมถึงพัฒนาธุรกิจหลักผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์พร้อมทาน (RTE) ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมลงทุนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความมั่นคงและเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ

สำหรับปี 2569 SUN ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิต เร่งขยายตลาดส่งออกยุโรป–เอเชีย และพัฒนานวัตกรรมสินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในเวทีโลก พร้อมเดินหน้าส่งมอบคุณค่าให้สังคมอย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายการเป็นองค์กรอาหารเกษตรสมัยใหม่ที่เติบโตอย่างยั่งยืน

เริ่มแล้วอย่างเป็นทางการ “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12” The Monsters’ Journey “Blooming Inspiration

เทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12” เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Monsters’ Journey “Blooming Inspiration” ผจญภัยไปกับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าดอยตุง สานต่อแรงบันดาลใจจากฟากฟ้า

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับพันธมิตรหลัก โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย คุณปวิณ ชำนิประศาสน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) คุณศุภวงศ์ เกื้อสังข์ ผู้จัดการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคเหนือ พร้อมด้วยผู้สนับสนุนกิจกรรมหลัก ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ การบินไทย จำกัด มหาชน จัดพิธีเปิดงานเทศกาล “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12” อย่างเป็นทางการ ณ สวนแม่ฟ้าหลวง โครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ภายใต้แนวคิด The Monsters’ Journey “Blooming Inspiration” ผจญภัยไปกับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าดอยตุง สานต่อแรงบันดาลใจจากฟากฟ้า จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 ธันวาคม 2568 25 มกราคม 2569 ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00 – 18.00 น.

นายประเสริฐ ตรงเจริญเกียรติ ประธานสายปฏิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “เทศกาลสีสันแห่งดอยตุงจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 นับตั้งแต่ปี 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชนเผ่า เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการชุมชนให้พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนเมืองและชุมชนดอยตุง”

“เทศกาลยังคงให้ความสำคัญกับการเป็น งานปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral Event) ผ่านการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติก จัดการขยะอย่างเป็นระบบ และใช้ Reusable Container ภายในงาน เป็นการสืบสานแนวคิด “การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน” และสำหรับปีนี้ ไฮไลต์พิเศษคือ คาแรกเตอร์ “พี่โต” และ “หมานหมาน” ผลงานสร้างสรรค์ร่วมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ถ่ายทอดเรื่องราวการอนุรักษ์ธรรมชาติและวัฒนธรรมในรูปแบบน่ารักร่วมสมัย รวมถึงกิจกรรมมากมายที่เชื่อมโยงศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชนเผ่าในพื้นที่” นายประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า “

ทกจ.ชม. พาเที่ยวประวัติศาสตร์ “การค้าโบราณล้านนา และเส้นทางวัวต่างม้าต่าง” เส้นทางเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน

หากพูดถึง วัวต่าง ม้าต่างนั้น ปัจจุบันไม่ได้มีการพบเห็นแล้ว ต่างจากอดีต “ต่าง” คือการนำภาชนะที่ใช้ในการบรรทุกสินค้า พาดอยู่บนหลังวัวหรือม้า นั่นเอง สิ้นสุดการใช้“วัวต่าง” หรือ“ม้าต่าง” นั้นเกิดขึ้นจาก เมืองมีการพัฒนาเส้นทางถนน และมีรถยนต์ จึงทำให้เกิดการขนส่งเปลี่ยนไป และสิ้นสุดเมื่อถนนเชียงใหม่-เชียงรายสร้างแล้วเสร็จในปี 2520

นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ มีการผลักดันกิจกรรมพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวการค้าโบราณในประวัติศาสตร์ล้านนา ภายใต้โครงการซอฟพาวเวอร์เพื่อเป็นต้นทุนพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวมูลค่าสูงของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และสร้างความรับรู้เกี่ยวกับเส้นทางโบราณ “วัวต่าง ม้าต่าง” ให้เกิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ นำคณะฯ สำรวจเส้นทาง “วัวต่าง ม้าต่าง” ร่วมกันพัฒนาเส้นทางการค้าโบราณ อาทิเส้นทางเชียงใหม่ – สบเมย- แม่สะเรียง ที่มีจุดแวะพักคนเดินทางค้าขายระหว่างกันที่วัดหางดง แม่ท่าช้าง อำเภอหางดง เส้นทางล่องเรือแม่น้ำสาละวิน บ้านแม่สามแลม อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมรับรู้ถึงเส้นทางวัดต่อแพอดีตที่เคยมีเรื่องเล่าถึงคาราวาน พ่อค้าวัวต่างม้าต่างอีกด้วย

สมาคมภาพยนตร์ฯ มอบรางวัลผลการประกวดภาพยนตร์สั้น CIFF Short Film Award 2025 ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568

เมื่อเร็วๆ นี้ ผลการประกวดภาพยนตร์สั้น CIFF Short Film Award 2025 ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 มีทีมเข้าส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกว่า 100 ผลงาน คัดเลือกในรอบสุดท้ายให้เหลือเพียง 5 ทีมพร้อมรับเงินสนับสนุนในการผลิต ทีมละ 100,000 บาท โดยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ในรอบตัดสิน

ผลการตัดสินจากคณะกรรมการและการโหวต ..
รางวัลชนะเลิศ WINNER GOLDEN STAR
ภาพยนตร์สั้นเรื่อง พันธะ (Bond) โดย ปฐมกาล สตูดิโอ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโทรฟี่ CIFF

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 WINNER SILVER STAR
ภาพยนตร์สั้นเรื่อง ทิ้ง (THE EXPIRED) โดย Le Pain (เลอแปง) ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโทรฟี่ CIFF

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 WINNER BRONZE STAR 3 รางวัล
1. ภาพยนตร์สั้นเรื่อง บริษัทรับจ้างตาย (DieCorp Co., Ltd.) โดย หนังเกรดเอฟ
2. ภาพยนตร์สั้นเรื่อง INTERLINKED 2068 โดย ฟันแอนด์โนกู๊ด
3. ภาพยนตร์สั้นเรื่อง Log-Friend / เพื่อนร๊()ก โดย JOAR Team ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมโทรฟี่ CIFF

รางวัลพิเศษ WINNER STAR AWARD (คะแนนโหวตจากผู้ชมภายในงาน) ภาพยนตร์สั้นเรื่อง บริษัทรับจ้างตาย (DieCorp Co., Ltd.) โดย หนังเกรดเอฟ
ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโทรฟี่ CIFF
โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่
#CIFF2025
#สมาคมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ
#กระทรวงวัฒนธรรมรม
#ททท #TAT #AmazingThailand

 

ผ่านไปแล้วกับงานวิ่งที่ท้าทาย “Chaing Mai Night Safari Cross-Country Run 2025 ” ที่ไนท์ซาฟารี (เชียงใหม่)

ทีมงาน Five Sports Creator เล็งเห็นว่ากิจกรรมการวิ่งเพื่อการท่องเที่ยว เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น สร้างรายได้และส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงกีฬามาร่วมทำกิจกรรมและท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ กระจายรายได้ในช่วง Hi Season ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของกิจกรรมจะรวมท้ัง ชาวไทยและชาวต่างชาติ และจะมีการโปรโมทและทําการตลาดผ่านพันธมิตรที่เป็น Running Clubs ไปยังกลุ่มเป้าหมายในจังหวัด อื่นๆ เป็นต้น

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่ เชียงใหม่ ไนท์ ซาฟารี อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  ,นายกริณย์พล ไชยยาพิบูล นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ และนางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การบริหารไนท์ซาฟารี (องค์การมหาชน) พร้อมด้วยนักวิ่ง Chaing Mai Night Safari Cross-Country Run 2025 ที่ชื่นชอบความท้าทายด้วยการแข่งขันวิ่ง Cross-Country ระยะทาง 10km / 5km และ 1km (Kids Race – วิ่งถนน) ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของโครงการ  1. เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงกีฬามาร่วมกิจกรรมและท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เพื่อกระจายรายได้ในช่วง Hi Season

2. เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดเชียงใหม่

3. เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นําด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย

ทั้งนี้ กิจกรรม “Chiang Mai Night Safari CrossCountry Run 2025” ขึ้นในวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2568 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและโปรโมทกิจกรรมวิ่งเทรลในอําเภอ หางดง จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของกิจกรรมจะเป็นกลุ่มครอบครัว รวมถึงเยาวชนท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติใน พื้นที่อําเภอหางดง โดยจะมีการโปรโมทและทําการตลาดผ่านพันธมิตรที่เป็น Running Clubs ไปยังกลุ่มเป้าหมายในจังหวัด เชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง โดยคาดการณ์จํานวนผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลาการจัดกิจกรรมรวมท้ังสิ้น 1,000 คน  แยกเป็นชาวไทย 800 คน ต่างชาติ 200 คน (นักวิ่ง (1) + ผู้ติดตาม (1) ซึ่งเชื่อมั่นว่ากลุ่มนี้จะช่วยกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดไม่มากก็น้อยอีกด้วย