SUN จับมือ สนับสนุนโครงการ “สวนดอกรวมน้ำใจ” คณะแพทยศาสตร์ มช. ส่งมอบผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนไทย–กัมพูชา

บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการสนับสนุนโครงการ “สวนดอกรวมน้ำใจ” โดยร่วมส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน ภายใต้แบรนด์ “KC” เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็น

สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องอพยพออกจากพื้นที่ และมีข้อจำกัดในการเข้าถึงโภชนาการและบริการพื้นฐาน SUN จึงได้ร่วมสนับสนุนโครงการ “สวนดอกรวมน้ำใจ” จัดโดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยร่วมสมทบผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทาน ข้าวโพดหวานหวานบรรจุกระป๋อง เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังน้ำใจในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังประสบภัย

ในฐานะผู้ประกอบการที่ยึดมั่นในหลักความรับผิดชอบต่อสังคม SUN เชื่อว่าอาหารคือพลังในการเยียวยา และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเข้าถึงในยามวิกฤต ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ได้ร่วมกับภาคการแพทย์ในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดน ส่งต่อความห่วงใยจากคนไทยสู่คนไทย

SUN ส่งต่อพลังใจ สู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568  สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือยังไม่คลี่คลาย หลายชุมชนในจังหวัดน่าน โดยเฉพาะอำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา และอำเภอท่าวังผา ยังคงเผชิญกับความยากลำบาก ถนนหนทางบางสายถูกตัดขาด บ้านเรือนเสียหาย และหลายครัวเรือนขาดแคลนสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน

ด้วยความห่วงใยต่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปภายใต้แบรนด์ “KC” ได้ระดมทีมงานและเครือข่ายพันธมิตร จัดส่งความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเติมกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังเผชิญวิกฤต

ผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนประกอบด้วย ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องตรา “KC” พร้อมรับประทาน เก็บรักษาได้นาน และน้ำดื่มสะอาดตรา “ฟ้าใส” จากบริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่ม

การช่วยเหลือครั้งนี้ถูกกระจายไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบดังนี้
1. ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดน่าน เพื่อกระจายต่อไปยังพื้นที่เสี่ยงใน อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา และอำเภอท่าวังผา
2. เทศบาลเมืองน่าน และเทศบาลตำบลเวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก
3. พันธมิตรทางธุรกิจในอำเภอเวียงสา ซึ่งเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ Ready to Eat (RTE) ของบริษัทฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงครัวเรือนในชุมชนอย่างรวดเร็ว

ทีมงานของ SUN ได้ลงพื้นที่และทำงานร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่น รวมถึงพันธมิตรในชุมชน เพื่อให้สิ่งของจำเป็นเข้าถึงทุกครัวเรือนโดยเร็วที่สุด แม้ในพื้นที่ที่การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก “เราเชื่อว่าความเกื้อกูลที่ส่งถึงกันแม้เพียงเล็กน้อย จะสร้างกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน”

อย่างไรก็ตาม SUN จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเดินหน้าสนับสนุนความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบสามารถฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

สถาบันวิจัยฯ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

กิจกรรม สวพส. ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟู ดิน น้ำ ป่า และสิ่งแวดล้อม ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอด สนองตามแนวพระราชดำริ น้อมนำแนวทาง ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีกิจกรรม Walk Rally ตามฐานเรียนรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “ฐานการปลูกพรรณไม้” เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้ผืนป่า การปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ และการพังทลายของหน้าดิน การเพิ่มกล้วยไม้สู่ธรรมชาติ (ผูกกล้วยไม้กับต้นไม้) เพื่อการรักษาและสร้างความสมดุลทางธรรมชาติของพรรณไม้ “ฐานการทำฝายชะลอน้ำ” โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ (ไม้ไผ่ ก้อนหิน ดิน ทราย) เพื่อช่วยชะลอการไหลของน้ำ และสร้างความชุ่มชื้นในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง “ฐานการทำปุ๋ยหมักธรรมชาติ/อินทรีย์” ซึ่งได้นำเศษใบไม้และเศษวัชพืชในพื้นที่มาทำปุ๋ยหมักอินทรีย์โดยใช้มูลวัวแห้งเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อช่วยลดปริมาณการกำจัดขยะและสร้างมูลค่าทางทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ฐานการทำไบโอชาร์ (Biochar)” การเรียนรู้วิธีขั้นตอน การเผาถ่าน (Biochar) โดยนำวัสดุไม้ฟืนที่เหลือใช้ในพื้นที่กลับมาใช้ในรูปแบบไบโอชาร์ เพื่อทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ “ฐานการลงเชื้อเห็ดในโคลนต้นไม้ในถุง” เรียนรู้ขั้นตอนการใส่เชื้อเห็ดในกล้าไม้ เพื่อการฟื้นฟูและสร้างความสมบูรณ์ทางชีวภาพและด้านอาหาร ณ ฐานเรียนรู้พื้นที่ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง
และในช่วงเย็นได้มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ประจำปี 2568 โดยมี นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ สวพส. เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน อีกทั้งได้ร่วมลงนามถวายพระพร เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร ต่อด้วยพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ห้องราชพฤกษ์ อาคารนิทรรศการ1 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่
โดยการจัดกิจกรรมตลอดทั้งวันได้มีสถาบันการศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่ สวพส. ชมรมคนฮักอุทยานหลวงราชพฤกษ์ รวมทั้งประชาชนชาวเชียงใหม่เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เป็นจำนวนมากเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย

เชียงใหม่ จัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

ค่ำวันนี้ (28 ก.ค. 68) ที่ ห้องรวงผึ้ง 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวรถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นำข้าราชการ อัยการ ศาล ทหาร ตำรวจ เหล่ากาชาดจังหวัดฯ เจ้านายฝ่ายเหนือ กงสุลประจำจังหวัดเชียงใหม่ และพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568
โดย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวรถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำหน่วยงานต่างๆ ร่วมวางพานพุ่มทอง พุ่มเงิน พร้อมทั้งเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นนำผู้เข้าร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลและกล่าวคำถวายราชดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร้องเพลงสดุดีจอมราชา และกล่าวทรงพระเจริญ 3 ครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและร่วมแสดงความจงรักภักดี แด่พระองค์
นอกจากนี้ ยังได้มีการแสดงจากวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ จำนวน 1 ชุด ชื่อการแสดงรำถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โรงแรมสมายล์ ล้านนา จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ณ โรงแรม สมายล์ ล้านนา นำโดยนายไพศาล สุขเจริญ กรรมการผู้จัดการโรงแรมสมายล์ล้านนา เชียงใหม่ ผู้บริหาร และพนักงานทุกท่านร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 โดยโรงแรมสมายล์ล้านนาได้แจกอาหาร กว่า 1,800 ชาม พร้อมเครื่องดื่ม และของใช้ฟรีแจกผ้าขนหนูอีก 1,000 ผืนให้แก่ชุมชนย่านนี้ และประชาชน ชาวเชียงใหม่ตั้งแต่เวลา 11.00 – 14.00 น. ณ ลานหน้าโรงแรม สมายล์ ล้านนา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี พร้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทั้งนี้ มีชาวบ้านย่านหายยา และประชาชนทั่วไปได้ทยอยรับสิ่งของเครื่องดื่ม อาหาร และผ้าขนหนู ที่ผู้บริหารโรงแรมเตรียมไว้ให้ในบรรยากาศอบอุ่น เป็นระเบียบ ภายใต้ความซาบซึ้งความมีน้ำใจของผู้บริหาร โรงแรมสมายล์ ล้านนา ( เชียงใหม่ )

อำเภอฝาง เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยจากพายุ “วิภา” เร่งเสริมพนังกั้นน้ำ เตือนพี่น้องประชาชนเสริมกระสอบทราย ระวังกระแสไฟฟ้าและสัตว์มีพิษ

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี นพรัตน์ ศุภกิจโกศล นายอำเภอฝาง ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการเตรียมบรรจุกระสอบทราย ณ ศูนย์ช่วยเหลือประชาชน เทศบาลตำบลเวียงฝาง เพื่อเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยจากพายุ “วิภา” ที่อาจทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่

นายอำเภอฝาง ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง พร้อมทั้งตรวจสอบ ซ่อมแซมคันดินและพนังกั้นน้ำ เตรียมเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเสริมกระสอบทรายในจุดเสี่ยง ระวังกระแสไฟฟ้าและสัตว์มีพิษ และให้ความสำคัญกับการสื่อสารแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้มากที่สุด.

ทั้งนี้ หากต้องการร้องขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อที่ที่ว่าการตำบล อำเภอ หรือ ศูนย์สนับสนุนและแก้สถานการณ์ฯ สายด่วน 0 5311 2615-6 และ ศูนย์สนับสนุนการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ฯ สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

ซีรีส์ “เดือนพราง The Hidden Moon” ได้รับรางวัล “ชุดแต่งกายยอดเยี่ยม” ใน Thailand Y Content Awards 2024

ดร.อดิศร สุดดี CEO MGY Entertainment นายกสมาคมภาพยนตร์ และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ พร้อมทั้งนักแสดงซีรีส์เดือนพราง The Hidden Moon นำโดย “แพทย์หญิงแก้วทิพย์ – เดวิด แมทธิว – ซานต้า ณภควัต“ เข้าร่วมงาน Thailand Y Content Awards 2024

และ ซีรีส์ “เดือนพราง The Hidden Moon”
ได้รับรางวัล “ชุดแต่งกายยอดเยี่ยม”

โดยเข้าชิงรางวัล 3 สาขา ( องค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม , การส่งเสริมวัฒนธรรมไทยยอดเยี่ยม , ชุดแต่งกายยอดเยี่ยม )

SUN เร่งเครื่องครึ่งปีหลัง ปลุกพลังกลยุทธ์ – นวัตกรรม – บุคลากร ขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืน

เชียงใหม่,18 กรกฎาคม 2568 – บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้นำธุรกิจแปรรูปข้าวโพดหวานและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ภายใต้แบรนด์ “KC” จัดการประชุม Mid-Year Meeting 2025 ณ สำนักงานใหญ่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสรุปผลงานครึ่งปีแรก พร้อมกำหนดกลยุทธ์ครึ่งปีหลังรับมือความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก โดยมีศาสตราภิชานไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท คณะกรรมการ ที่ปรึกษา และผู้บริหารระดับสูงร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า การดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ด้วยการปรับกลยุทธ์ด้านการขาย การลงทุนเครื่องจักรเทคโนโลยีใหม่ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ SUN สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม ขยายตลาดใหม่ได้ต่อเนื่อง และรักษาระดับรายได้และกำไรในระดับที่น่าพึงพอใจ

สำหรับครึ่งปีหลัง SUN ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุก ภายใต้ธีม “ปรับเกม – ลงทุน – ขยายโอกาส” เพื่อรับมือบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภค โดยเน้นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ อาทิ
• โครงการ Mini Factory 2 ขยายกำลังการผลิตสินค้า Ready-to-Eat (RTE)
• โครงการ Tetra Pak ยกระดับคุณภาพและภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์
• การจัดตั้ง สำนักงานกรุงเทพฯ เพื่อเสริมประสิทธิภาพธุรกิจในประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์และการส่งออก

นอกเหนือจากกลยุทธ์ทางธุรกิจ SUN ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “บุคลากรและวัฒนธรรมองค์กร” ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพทีมงาน ปรับโครงสร้างให้รองรับการเปลี่ยนแปลง และส่งเสริมการเป็น องค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และความเชื่อมั่นจากทุกภาคส่วนภายในองค์กร

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการขับเคลื่อน SUN สู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สะท้อนถึงองค์กรที่พร้อม “ปรับ เปลี่ยน และนำหน้า” ในโลกที่ไม่หยุดนิ่ง

“ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1ดันแนวคิดสินค้าผู้สูงอายุที่ใช้ได้กับทุกคน”

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 5 พัฒนาผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่นสำหรับผู้สูงอายุ (Senior LIFE) กิจกรรมหลักที่ 1 สร้างโอกาสใหม่อุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ (Senior-Friendly Industry) โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน จำนวน 15 ผลิตภัณฑ์ โดยเจาะตลาดผู้สูงอายุที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่นที่ตอบสนองความต้องการและเอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ ยกระดับอุตสาหกรรมศักยภาพด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงอายุด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ และสร้างโอกาสทางการตลาดและขยายฐานรายได้ของภาคอุตสาหกรรมตามแนวทางเศรษฐกิจสูงวัย

โดยได้คัดเลือกตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จ (Success Case) จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ นำเสนอผลงานที่สามารถเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้สูงอายุที่มักใช้เวลาหลังเกษียณไปกับกิจกรรมภายในที่พักอาศัยหรือการท่องเที่ยว โดยนำมาตรฐานการออกแบบเพื่อผู้สูงอายุหรือแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) มาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ เน้นรูปแบบการใช้งานที่สะดวก ปลอดภัย เพิ่มคุณภาพชีวิต และลดการพึ่งพาผู้อื่น ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของภาคอุตสาหกรรมในการขยายตลาด สร้างรายได้ และสามารถแข่งขันทางการตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นำไปสู่การเพิ่มรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน สามารถรับชมผลงานได้ที่ https://youtu.be/G0vj13yW-Es

ท่องเที่ยวและกีฬาฯ พาสื่อและผู้ประกอบการเชียงใหม่ ชมแหล่งท่องเที่ยงเชิงชุมชน

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงใหม่, นายสมศักดิ์ อินทะชัย นายกสมาคมท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคเหนือ, นายดำรงค์ องอาจ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ , นายอธิรัตน์ มาศรัตน์ ประธานเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชนเชียงใหม่ และแขกผู้มีเกียรติร่วมกิจกรรมการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนวิถีชาติพันธุ์ “ ชาติพันธุ์สีสันแห่งล้านนา ” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนาอย่างยั่งยืน (Ethnic Lanna Tourism) ประจำปี 2568

การเยี่ยมชมชุมชนบ้านไตลื้อลวงเหนือ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์การเรียนรู้บ้านภูมิปัญญาไตลื้อลวงเหนือ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ บ้านเรือนจำลอง และวิถีชีวิตเอกลักษณ์ของชาวไตลื้อ พร้อมแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ ในด้านการบริหารชุมชน โดยชุมชนไทลื้อนั้น เจ้าของฐานการเรียนรู้ศูนย์การเรียนรู้ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อบ้านใบบุญ คือ นางพรรษา บัวมะลิ เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่สื่อให้ถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไตลื้อสมัยก่อน

และเสื้อบ้านเป็นสถานที่บ่งบอกถึงความเชื่อของคนไตลื้อที่มีความเชื่อว่ามี เจ้าบ้านเจ้าเมืองเป็นเทวดาคอยคุ้มครองคน ในหมู่บ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ดังนั้น ชุมชนจึงมีกิจกรรมไหว้สาเสื้อบ้านเพื่อบอกกล่าว และพร

เสือบ้าน (ศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน) เป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความเชื่อของชาวไท ลื้อที่เชื่อว่ามีวิญญาณผู้พิทักษ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เจ้าบ้านเจ้าเมือง” คอย คุ้มครองหมู่บ้านและนำความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชาวบ้าน ดังนั้น ชุมชนจึงจัด พิธีกรรมที่เรียกว่า “ไหว้เสือบ้าน” เพื่อแสดงความกตัญญูและขอพร

 

นอกจากนี้ การเยี่ยมชมชุมชนป่าไผ่โคกหนองนาโมเดล ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ของจังหวัดเชียงใหม่ ยังเป็นแหล่งที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยการน้อมนำ แนวคิด “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบเกษตรผสม ผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นความสมดุลของคน ป่า และน้ำ มีการ ฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ด้วยการสร้างแหล่งน้ำ ปลูกพืช ผสมผสาน และจัดระบบการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสมในแต่ละครัวเรือน

โดยจุดเด่นของชุมชน เป็นพื้นที่ต้นแบบด้านเกษตรยั่งยืนตามแนวคิด “โคก หนอง นา โมเดล มี การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า โดยเฉพาะ “ป่าไผ่” และเป็น ชุมชนที่สามารถพึ่งพาตนเองด้านอาหาร เช่น ปลูกผัก เลี้ยงปลา ไก่ และ แปรรูปผลผลิต อีกทั้งยังมีระบบจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หนองน้ำและคลองไส้ไก่ นอกจากนี้ยังเป็นชุมชนเข้มแข็ง ยึดหลัก “พอ เพียง ยั่งยืน และเป็นสุข” และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เปิดให้ชุมชนอื่นเข้ามาศึกษาดูงานได้ทั่วประเทศ