ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง สถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือ โรคชิคุนกุนยา ซึ่งในขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนผู้ป่วยโรคไข้ปวดข้อยุงลายต่อแสนประชากรอยู่ในลำดับที่ 13 ของประเทศ จากข้อมูลงานระบาดวิทยา กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือน 1 มกราคม – 16 สิงหาคม 2563 พบผู้ป่วย 150 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มอายุ 55-64 ปี รองลงมาคือ อายุ 15-24 ปี อำเภอที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า และอำเภอฮอด โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มียุงลายสวน และยุงลายบ้านเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดข้อ ข้อบวมหรือข้ออักเสบร่วมกับมีอาการปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผื่นหรืออ่อนเพลีย มีอาการคล้ายโรคไข้เลือดออก แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงสามารถพบผู้ป่วยได้ทุกกลุ่มอายุ รวมทั้งเด็กเล็ก สำหรับการรักษาจะใช้การรักษาตามอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน ร่วมกับป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา
ทั้งนี้ การป้องกันการแพร่กระจาย คือ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายด้วยมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะเศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำจะต้องปิดฝาให้มิดชิด หรือหมั่นทำความสะอาด เปลี่ยนถ่ายน้ำ ใส่ทรายหรือแบคทีเรียกำจัดลูกน้ำป้องกันไม่ให้ยุงลายมาวางไข่ ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ถึง 3 โรค คือ โรคชิคุนกุนยา หรือ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคไข้เลือดออก และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ตลอดจนดูแลรักษาสุขภาพและรับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและมีอนามัยที่ดีอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามหากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ 053-211048 ต่อ 110