สกู๊ปพิเศษ » พิษโควิด-19 ไร้การท่องเที่ยวควาญช้างและช้างอพยพกลับบ้าน อยู่ก็อดตาย ไปตายดาบหน้าดีกว่า

พิษโควิด-19 ไร้การท่องเที่ยวควาญช้างและช้างอพยพกลับบ้าน อยู่ก็อดตาย ไปตายดาบหน้าดีกว่า

17 พฤษภาคม 2020
1102   0

Spread the love

พิษภัยร้ายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วทุกหนระแหง ในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เป็นปัจจัยหลักที่นำรายได้มหาศาลมาสู่ประเทศ ได้รับผลกระทบอย่างรุงแรงชนิดรายได้เป็น”ศูนย์” โดยเฉพาะปางช้างหลายแห่งทั้งเล็กทั้งใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่เคยทำเงินจากการท่องเที่ยว จนสามารถเลี้ยงทั้งคนและช้างได้อย่างสบายมาตลอด

ปางช้างที่มีช้างเป็นของตัวเองและมีสายป่านการเงินที่ยาวก็ยังสามารถประคับประคองเลี้ยงช้างและควาญช้างให้อยู่รอดได้ในระยะยาว แต่ปางช้างที่ต้องเช่าช้างและควาญช้างมาอยู่ในปางตัวเอง เมื่อประสบปัญหานักท่องเที่ยวเป็น”ศูนย์”ก็ต้องเลิกเช่าช้างและให้ช้างและควาญออกจากปางไปเพราะไม่สามารถแบกรับปัญหาการเลี้ยงช้างที่ต้องให้อาหารช้าง เชือกหนึ่งวันละ 300-500 กิโลกรัม

เมื่อเป็นเช่นนี้ทางเจ้าของช้างและควาญช้างจึงต้องนำเชือกกลับบ้าน ช้างที่มาจากต่างจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น จ.สุรินทร์ จ.ชัยภูมิ รวมทั้งบุรีรัมภ์และหลายจังหวัดต้องนำช้างกลับโดยวิธีใช้รถบรรทุกช้างกลับในราคาที่แพงมากกว่า 1 แสนบาทขึ้นไป แต่ช้างที่เดินทางมาจาก จ.ตาก และ จ.แม่ฮ่องสอน รวมทั้งอำเภอแดนไกลของเชียงใหม่ไม่ว่า อ.แม่แจ่ม อ.อมก๋อย ช้างทั้งหมดรวมทั้งควาญช้าง เจ้าของ ช้างกว่า 100เชือก จะต้องใช้วิธีเดินเท้าลัดป่าดอยจาก อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

ผ่านเส้นทางป่าลึกดอยสูงและเส้นขอบเหวลึก ที่สองข้างทางแทบไม่มีอาหารช้างเลย จากสถานการณ์ไฟป่าที่เผาสองข้างทางจนไม้ใหญ่และพืชล้มตายจำนวนมาก และอากาศที่ร้อนมีทั้งช้างน้อยแรกเกิดวัย 4 เดือนรวมทั้งช้างชราวัยกว่า 60 ปีที่ต้องเดินทางไกลร่วม 200 กิโลเมตร ไร้น้ำและอาหารที่มีในป่าทางธรรมชาติ


ในเรื่องนี้ทางมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม นำโดยนางแสงเดือน ชัยเลิศ นักอนุรักษ์ช้าง ต้องใช้วิธีการช่วยเหลือในด้านอาหารช้างโดยส่งเจ้าหน้าที่เดินร่วมทางไปกับช้างโดยนำรถบรรทุกน้ำ และอาหารช้าง ไม่ว่าจะเป็นหญ้าและแตงโมไปวางไว้เป็นระยะที่ขบวนช้างอพยพจะต้องเดินผ่านป่าระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร จนไปถึงหมู่บ้านที่มีลำน้ำลำห้วย และต้องเดินทางผ่านหมู่บ้านขึ้นดอยสูงจนกว่าจะไปถึงบ้านถิ่นเดิมของเจ้าของช้างซึ่งเป็นเส้นทางมหาโหดจริงๆและช้างเมื่ออพยพไปแล้วก็ไม่ว่าอีกกี่เดือนจะได้กลับมาอีก


นายธีระชัย เปรมชื่นธนาวัลย์ เจ้าของช้างชนผ่าปกากญอ หรือชนเผ่ากะเหรี่ยง ได้เผยว่าจากกระแสไวรัสโควิด ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีช้างและควาญตกงาน เจ้าของช้างต้องจำเป็นต้องนำช้างกลับเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ เพราะช้างก็ต้องกินควาญก็ต้องกิน ทุกอย่างต้องซื้อกิน แต่หากกลับบ้านก็ดีกว่าเพราะยังมีนา มีไร่ให้ทำกิน จึงต้องกลับบ้านที่ ต.แม่สึก อ.แม่แจ่ม และไกลกว่านี้ก็มี

ในเวลานี้ช้างอพยพเดินทางกลับบ้าน จาก อ.แม่แจ่ม และ อ.แม่แตง เฉพาะช้าง ต.แม่สึก ก็มีประมาณ 100 เชือกแล้ว เราเดินทางมาตั้งแต่เดือน กุมพาพันธ์ มีนาคมและเมษายน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากลับบ้านจะมีอะไรให้ช้างกิน แต่ก็ดีกว่าอยู่ในเก่ารอวันอดตายทั้งคนและช้าง


**เจ้าของช้างชนผ่าปกากญอ ยังกล่าวอีกว่ามันเป็นประวัติศาสตร์ของการอพยพช้างกลับบ้านเป็นร้อยเชือก หรือเกือบ 100 เปอร์เซ็น ของหมู่บ้านช้างห้วย บง อ.แม่แจ่ม ถือว่าเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมที่เลียงช้างจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งหากเป็นช้างจากหมู่บ้านแห่งนี้ที่เป็นเจ้าของช้าง และนำไปอยู่ตามปางช้าง อ.แม่แตง และ อ.แม่วาง น่าจะนำช้างเดินทางกลับบ้านหมดแล้ว และกลับไปถึงบ้านก็ไม่รู้ว่าจะมีอาหารช้างเพียงพอหรือไม่

เพราะสภาพพื้นที่ป่าเป็นไร่ข้าวโพดไปหมดแล้ว และหากเจ้าของช้างมีมาตรการรองรับปลูกหญ้าไว้ให้ช้างก็ยังพอจะอยู่ได้ แต่หากยังไม่ได้เตรียมตัวก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องเลี้ยงกันตามมีตามเกิดไป แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ตามปางช้างที่เดิม ที่ไม่รู้ว่าโควิด19 จะหมดสิ้นไปเมื่อใด และนักท่องเที่ยวจะกลับมาเมื่อใด อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือมากกว่าปีก็เป็นได้


ด้านนางแสงเดือน ชัยเลิศ มูลนิธอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ที่เดินเท้ามากับช้างอพยพในครั้งนี้ด้วยได้เผยว่าช้างที่อพยพในครั้งนี้เป็นช้างของตระกูลปกากญอ หรือกะเหรี่ยง มาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ในอดีตช้างเหล่านี้จะนำไปลากไม้ หลังจากลากไม้เสร็จก็มีทำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่วันนี้เมื่อโควิด -19 สร้างปัญหา

ช้างเหล่านี้ไม่มีงานทำ เขาจึงจำเป็นต้องนำช้างกลับเพราะหากอยู่ในพื้นที่ก็ไม่มีกินไม่มีหญ้าเพราะไฟป่าไหม้หมดเลย เขาต้องพากันหนีตายเพราะไม่รู้อนาคตว่าทัวร์จะกลับมาในเวลาไหน เพราะอยู่ในปางช้างจะต้องเสียค่าน้ำค่าไฟ ต้องขอนำกลับบ้านดีกว่า เขาเดินทางกลับจาก อ.แม่วาง ถึง อ.แม่แจ่ม เป็นหมู่บ้านติดกับแม่ฮ่องสอน ต้องใช้เวลาถึง 5 วัน จะนอนกลางทางและใช้วิธีเดินทางลัดกลางป่า โดยช่วงนี้ช้างอพยพกลับบ้านเป็นร้อยเชือก

 

ช้างเหล่านี้มาทำงานด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แล้ววันนี้โควิด 19 ได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรง ไม่มีนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทุกคนก็ยังรอ แต่พอรัฐบาลประกาศไม่ให้มีการบริการนักท่องเที่ยวและสายการบินปิดทุกที่ เมื่อนักท่องเที่ยวไม่มี อยู่ที่นี่ก็ตาย สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าคือสิ่งที่ทุกคนคิดกัน