สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เตือนประชาชนเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก พร้อมขอความร่วมมือชุมชนและประชาชน ช่วยกันกำจัดแหล่งแพร่พันธุ์ยุงลายในชุมชน และรอบบริเวณบ้าน โดยใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”
วันนี้ ( 19 ก.ค. 65 ) ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ของจังหวัดเชียงใหม่ กรณีโรคไข้เลือดออกที่กำลังระบาดในช่วงฤดูฝนนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยไข้เลือดออกมากที่สุดในลำดับที่ 4 ของประเทศ และเป็นลำดับที่ 3 ของเขตบริการสุขภาพที่ 1 (ภาคเหนือตอนบน 1) โดยในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยสูงถึง 288 ราย
จากการเฝ้าระวังของกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 กรกฎาคม 2565 จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยแล้ว 653 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มผู้ป่วยที่พบมากที่สุด คือ วัยทำงานอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 25-34 ปี และ 35 – 44 ปี รองลงมา คือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 15-24 ปี ตามลำดับ อำเภอที่มีอัตราผู้ป่วยต่อแสนประชากร สูงสุด 5 อันดับ คือ อำเภอเวียงแหง เชียงดาว พร้าว ฮอด และอำเภออมก๋อย ส่วนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และอำเภอเมืองเชียงใหม่ พบว่าเริ่มมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น คาดว่าระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2565 จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากยังคงมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำขังในแอ่งและภาชนะต่างๆ กลายเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ยุงลายได้
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้แจ้งเตือนประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยกันกำจัดแหล่งแพร่พันธุ์ยุงลายในชุมชนและรอบบริเวณบ้าน โดยเน้นย้ำให้ใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ได้แก่ เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีบริเวณอับทึบให้ยุงลายเกาะพัก , เก็บขยะที่อยู่รอบบ้านไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ เก็บภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด หมั่นตรวจตราดูแลภาชนะที่ไม่ใช้แล้วโดยเก็บทำลาย ล้างหรือคว่ำไว้ไม่ให้มีน้ำขัง สำหรับกระถางหรือแจกันให้เปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ พร้อมใส่ทรายกำจัดลูกน้ำหรือปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ นอกจากนั้น ยังเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุง หรือ นอนในมุ้ง จะช่วยป้องกันโรคติดต่อที่มาจากยุงลายได้ถึง 3 โรค ทั้งโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา ด้วย