สังคม » ผู้ว่าฯ สั่งการทุกอำเภอลงพื้นที่สำรวจจุด Hotspot หลังพบมีการบุกรุกเพิ่มพื้นที่เตรียมการเกษตร

ผู้ว่าฯ สั่งการทุกอำเภอลงพื้นที่สำรวจจุด Hotspot หลังพบมีการบุกรุกเพิ่มพื้นที่เตรียมการเกษตร

13 เมษายน 2020
536   0

Spread the love

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการทุกอำเภอลงพื้นที่สำรวจที่เกิดจุด Hotspot ที่ทางจังหวัดชี้เป้าให้ พร้อมเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
วันนี้ (13 เม.ย. 63) นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมกับคณะทำงาน

ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์
ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกประชุม 5 อำเภอที่มีจุดความร้อนมากที่สุดในเช้าวันนี้ คือ อำเภอแม่แจ่ม เชียงดาว
กัลยาณิวัฒนา แม่แตง และอำเภออมก๋อย ผ่านระบบ VDO Conference ซึ่งจากการรายงานตามข้อมูล GISTDA ในรอบเช้า พบจำนวนจุด Hotspot 108 จุด ในพื้นที่เกษตร พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 9 จุด และลุกลามจากจุดเดิมจากรอบบ่ายวานนี้ 18 จุด
ทั้งนี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่าง
เฉียบขาด โดยทุกอำเภอ เมื่อเกิดจุด Hotspot ในพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ นายอำเภอ และตำรวจ เข้าไปพิสูจน์ทราบในที่เกิดเหตุโดยด่วน ซึ่งทางศูนย์บัญชาการฯ จะได้คัดเลือกจุด Hotspot ที่มีความชัดเจนในจุดที่ต้องสงสัย ส่งไปให้ยังอำเภอ และทางอำเภอต้องถือเอาจุดที่จังหวัดชี้เป้า เร่งเข้าไปแจ้งความภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้ระบุเป็นเจ้าของพื้นที่หรือใกล้เคียง หลังจากนั้นในวันที่สองของการเข้าไปพิสูจน์ทราบในพื้นที่ ให้ตำรวจเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำทันที ซึ่งในวันที่สาม ศูนย์ฯ จังหวัดจะต้องทราบผลของแต่ละคดีที่ทางจังหวัดได้ชี้เป้าแล้ว และไม่ควรจะมีการชี้แจ้งว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะได้มีการสั่งการจากทางศูนย์ฯ จังหวัด
ไว้ชัดเจนแล้ว ทั้งนี้กระบวนการดำเนินงานทั้งหมดต้องให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ในส่วนของ 5 อำเภอที่มีจุด Hotspot เกิดขึ้นสูงสุด ให้ทางอำเภอประเมินจุดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันต่อไป อำเภอละ 10 จุด เพื่อเป็นการคาดการณ์และวางแผนการปฏิบัติงานล่วงหน้า อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดจุดความร้อนซ้ำซาก

ด้าน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์พบว่า การเกิดจุดความร้อนเกิดจากการลุกลามจากจุดเดิมเป็นส่วนมาก ดังนั้นการปฏิบัติงานของภาคพื้นต้องมีการสำรวจสังเกตการณ์ในพื้นที่ที่เกิดการไหม้ซ้ำซากอย่างต่อเนื่อง และหากพบลำต้นที่ยังมีควันคุกรุ่น และมีไฟไหม้ตอ ขอให้โค่นลง เพื่อไม่ให้
มีการลุกกลับขึ้นมาอีก และให้ดับไฟตอที่เหลือให้สนิท ก่อนถอนกำลัง เพื่อไม่ให้เกิดกลุ่มควันและป้องกันการเกิด
ไฟป่าในพื้นที่ปะทุขึ้นมาอีก หากอำเภอใดไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ ให้ประสานมายังศูนย์ฯ จังหวัด เพื่อทางจังหวัดจะได้พิจารณาการสนับสนุน ทั้งการใช้อากาศยาน กำลังพล รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยในการดับไฟ กรณีเป็นพื้นที่เขาสูงชัน จำเป็นจะต้องมีการทำแนวไฟกันชน ขอให้แจ้งมายังศูนย์ฯ จังหวัดก่อน เพื่อทางจังหวัดจะได้พิจารณา
ให้เป็นข้อยกเว้นต่อไป