สังคม » ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ พร้อมปรับแผนการทำงานให้ทันสถานการณ์

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ พร้อมปรับแผนการทำงานให้ทันสถานการณ์

8 เมษายน 2020
485   0

Spread the love

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังพบจุด hotspot เพิ่มขึ้นจากวานนี้ เน้นย้ำทุกอำเภอเพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง

เช้าวันนี้ (8 เม.ย. 63) ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมหารือปรับแผนการปฏิบัติงานและติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ที่เกิดจุดความร้อนมากที่สุด 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว 41 จุด อำเภอแม่แจ่ม 41 จุด อำเภออมก๋อย 31 จุด อำเภอสะเมิง 24 จุด และอำเภอแม่แตง 23 จุด ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยในเช้าวันนี้ จังหวัดเชียงใหม่เกิดจุด Hotspot 279 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 145 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 128 จุด เขต สปก. 5 จุด และพื้นที่อื่นๆ 1 จุด ซึ่งจุดความเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 116 จุด

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังชุดลาดตระเวน และชุดดับไฟลงไปในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะอาสาสมัครพญาอินทรีย์ จากองค์กรกลางการสื่อสารเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มาร่วมภารกิจการดับไฟป่าในครั้งนี้ ทั้งนี้ยังได้เน้นย้ำในทุกอำเภอเพิ่มความถี่ในการประชาสัมพันธ์การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ผ่อนผันทำกิน อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเชียงดาว ที่มีจุด Hotspot สูงที่สุดของวันนี้ โดยให้หารือปรับแผนการทำงาน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์และมีไฟเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพื้นที่เป็นพื้นที่ที่เข้าถึงยาก อีกทั้งแหล่งน้ำในพื้นที่ค่อนข้างมีน้อย จึงทำให้การดับไฟในพื้นที่เป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม หากทางอำเภอต้องการร้องขอการสนับสนุนของอากาศยาน สามารถแจ้งมายังศูนย์ฯ จังหวัดได้ทันที

ในขณะที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเน้นย้ำในเรื่องของการสำรวจพื้นที่บริหารจัดการเชื้อเพลิงของแต่ละอำเภอโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเร่งรัดการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มข้น โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยาน ในการสืบสวนขยายผลหาหลักฐานเพื่อติดตามหาตัวผู้ที่ลักลอบเผาป่ามาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าใจผิดของพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้เผยแพร่สถานการณ์ของหมอกควันไฟป่าที่เป็นปัจจุบันเท่านั้น งดเผยแพร่ภาพสถานการณ์การเกิดเหตุไฟป่าที่เป็นภาพเก่า ซึ่งในการแจ้งความดำเนินคดีเมื่อวานนี้ รวม 31 คดี จาก 8 อำเภอ