เศรษฐกิจ » ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตลาดวโรรสกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผ่านกิจกรรม “ชิม ช้อป ใช้ แอ่วเจียงใหม่ รับลมหนาว”

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตลาดวโรรสกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ผ่านกิจกรรม “ชิม ช้อป ใช้ แอ่วเจียงใหม่ รับลมหนาว”

30 พฤศจิกายน 2019
632   0

Spread the love

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ลงพื้นที่ตลาดวโรรส เชิญชวนประชาชนใช้จ่ายผ่านแอพเป๋าตัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ในกิจกรรม “ชิม ช้อป ใช้ แอ่วเจียงใหม่ รับลมหนาว”

เมื่อวันที่ 30 พ.ย.62 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ลงพื้นที่ ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกิจกรรม “ชิม ช้อป ใช้ แอ่วเจียงใหม่ รับลมหนาว” โดยมีนายวีระพันธ์ ดีอ่อน นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายสมยศ นิมมานเหมินทร์ ผู้บริหารตลาดวโรรส พร้อมด้วยผู้บริหารธนาคารกรุงไทย กรมบัญชีกลาง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ได้เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับวิสาหกิจชุมชนตัวอย่าง ในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเชิญชวนวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ เข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” และใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 รวมถึงให้ผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งร้านชิม ร้านช้อป และร้านใช้  รับเงินผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงิน เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ สามารถรองรับการจับจ่ายตามโครงการ “ชิมช้อปใช้” ได้ตลอดทั้งทริป รวมถึงรณรงค์ให้มีการจับจ่ายใช้สอยผ่านกระเป๋า 2 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) ยืนยันว่า พี่น้องประชาชนที่จับจ่ายใช้สอยผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง กระเป๋า 2 ทุก 1,000 บาท จะได้รับ 1 สิทธิ์ เพื่อลุ้นรับรางวัลทองคำทุกสัปดาห์ ในส่วนของร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นถุงเงิน ก็จะได้รับ 1 สิทธิ์ต่อ 1 ใบเสร็จ เพื่อลุ้นรับทองคำทุกสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทย และในการลุ้นรางวัลผู้โชคดีนั้น จะย้อนหลังให้ผู้เข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” ทั้ง 3 เฟส ที่มีการจับจ่ายใช้สอยผ่านกระเป๋า 2 ไปก่อนหน้านี้ด้วย

ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ มีตัวเลขมูลค่าการใช้จ่ายแล้ว กว่า 270 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้ พร้อมเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ในช่วงเทศกาลวันหยุด ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพื่อร่วมด้วยช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวภายในประเทศนอกจากจะก่อให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย.