สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ชวนรำลึกถึง “แรด” สัตว์เลือดอุ่นขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ใน “วันแรดโลก” (World Rhino Day) วันที่ 22 กันยายน ของทุกปี และร่วมปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ “แรด”ก่อนที่สัตว์ชนิดนี้จะสูญพันธุ์ไปจากโลก ดังเช่นการสูญพันธุ์ของแรดในประเทศไทย
นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ตระหนักถึงความสำคัญ “วันแรดโลก” ซึ่งตรงกับวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี โดยในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยเคยมีแรดถึง 2 สายพันธุ์ คือ แรดชวา และแรดสุมาตรา (กระซู่) ปัจจุบันได้สูญพันธุ์จากประเทศไทยไปแล้ว และไม่พบการดูแลแรดทั้งสองสายพันธุ์นี้ในสวนสัตว์ เนื่องจากจำนวนประชากรที่พบในธรรมชาติมีน้อยมาก ไม่ถึง 100 ตัว เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีแรดอีก 3 ชนิด คือ แรดอินเดีย แรดดำ และแรดขาว ก็นับว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ใกล้สูญพันธุ์เช่นเดียวกัน โดยทั่วโลกมีแรดทั้งหมดจาก 5 สายพันธุ์ หลงเหลืออยู่เพียงไม่เกิน 30,000 ตัว เท่านั้น
และปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีแรดอยู่ในความดูแลและการอนุรักษ์ คือ “แรดขาว” (White rhinoceros) ซึ่งเป็นแรดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีน้ำหนักตัวสูงถึง 3,500 กิโลกรัม จำนวน 2 ตัว ชื่อ พี่ฮอร์น (เพศผู้) อายุ 27 ปี และ น้องกอหญ้า (เพศเมีย) อายุ 20 ปี โดยได้รับการดูแลและอนุรักษ์อยู่ในส่วนแสดงซาวันนาซาฟารี ซึ่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ดูแลแรดขาวมาเป็นระยะเวลากว่า 17 ปี แรดทั้งสองตัวนี้มีความผูกพันและสนิทสนมกับผู้เลี้ยง และชอบให้อาบน้ำ ขัดตัว ซึ่งเป็นการสร้างความผ่อนคลายให้กับพี่ฮอร์นและน้องกอหญ้า สองสมาชิกแรดขาวได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง “แรดขาว” ยังเป็นหนึ่งใน Big Five ของกิจกรรม Behind the Zoo ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอีกด้วย
ทั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการคงอยู่ของสายพันธุ์แรดทั้ง 5 ชนิดทั่วโลก ใน “วันแรดโลก” 22 กันยายนนี้ และขอเชิญชวนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ โดยการเยี่ยมชม “แรดขาว” ได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 053-999000 หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari, LineOA : @nightsafari, Tiktok และ IG : chiangmainightsafariari