พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในห้วงเวลาปัจจุบัน ได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงพี่น้องประชาชนในหลายรูปแบบ อาทิเช่น หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด หรือปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วให้เพิ่มเพื่อนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยปลอมเป็นไลน์ของสถานีตำรวจ เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกให้หลงเชื่อว่าทำผิดกฎหมายเพื่อโอนเงินแลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งในขั้นตอนสุดท้ายมิจฉาชีพจะโน้มน้าวให้ “โอนเงิน” ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นั้น ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินเด็ดขาด
พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากภัยร้ายทางโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะปราบปรามอย่างจริงจัง จึงได้ตั้ง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องดังกล่าว อย่างเข้มงวด เพื่อลดความสูญเสียทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ฯ
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายให้ประชาสัมพันธ์เตือนภัย และให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้รู้เท่าทันมิจฉาชีพ เสมือนเป็นวัคซีนเพื่อป้องกันภัยร้ายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Vaccinated) และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติหน้าที่กวาดล้างมิจฉาชีพอย่างเข้มข้น รวดเร็ว เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกต่อไป จึงอยากขอเน้นย้ำกับพี่น้องประชาชนว่า หากท่านพบว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดำเนินการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพ ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินโดยเด็ดขาด!!!
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันมิจฉาชีพ และมีผลการจับกุมปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง หากท่านเผชิญกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ขอให้ท่านตั้งสติ และห้ามโอนเงินเด็ดขาด หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด ขอให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทร.สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้ออกแจ้งเตือนคนที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือมอบบัญชีธนาคารของตนให้บุคคลอื่นใช้ โดยรู้และควรรู้ได้ว่าจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดและบัญชีดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง การพนัน ยาเสพติด หรือกระทำความผิดกฎหมายอื่น เข้าของบัญชีอาจถูกดำเนินคดีอาญาดังนี้ในฐานะตัวกลางร่วม ต้องระวางโทษตามกฎหมายกำหนด ผู้สนับสนุนต้องระวางโทษ 2 ใน 3ส่วนฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งปรับทั้งจำ
พร้อมกันนี้ทางตำรวจภูธรภาค5 ยังฝากแจ้งเตือนประชาชน ได้รับ SMS พร้อมลิงค์ อย่าเพิ่งตกใจ ไม่กดลิงค์ ไม่กรอกข้อมูล ไม่ต้องเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์”ระมัดระวังตั้งสติไม่ควรกดลิงค์แปลกๆที่แนบมากับSMSหรือก่อนจะกดใดๆก็ตามควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อนที่จะกรอกข้อมูล”เหตุด่วนเหตุร้ายโทร.191 ตลอด 24 ชั่วโมง